ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ผิดหวังผลประกอบการฉุดตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (19 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน นอกเหนือไปจากความวิตกเกี่ยวกับสงครามในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 439.73 จุด ลดลง 5.29 จุด หรือ -1.19%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,921.37 จุด ลดลง 44.62 จุด หรือ -0.64%
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,045.23 จุด ลดลง 49.68 จุด หรือ -0.33%
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,499.53 จุด ลดลง 88.47 จุด หรือ -1.17%

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง

ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่ฉนวนกาซามากขึ้นในวันพฤหัสบดี ด้านนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัคของอังกฤษดำเนินการตามประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐในการเดินทางเยือนอิสราเอลเพื่อแสดงการสนับสนุนของชาติตะวันตกในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปี และการเทขายพันธบัตรส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยนำตลาดร่วงลง โดยถูกกดดันจากการที่หุ้นบริษัทไรต์มูฟ (Rightmove) ของอังกฤษร่วงลง 14.3% หลังบริษัทโคสตาร์ (CoStar) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐตกลงที่จะซื้อบริษัทออนเดอะมาร์เก็ต (OnTheMarket) ซึ่งเป็นคู่แข่งของไรต์มูฟ

หุ้นเนสท์เล่ ร่วงลง 3.4% หลังจากเปิดเผยยอดขายรอบ 9 เดือนชะลอการขยายตัว เนื่องจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อ

หุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศสร่วง 7.3% หลังจากเปิดเผยรายได้ไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นโนเกียของฟินแลนด์ร่วงลง 6.4% เนื่องจากบริษัทประกาศแผนปลดพนักงาน หลังจากยอดขายในไตรมาส 3 ลดลง

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้น 0.5% โดยหุ้นเอสเอพี (SAP) ของเยอรมนีพุ่งขึ้น 5.1% หลังยืนยันแนวโน้มรายได้ทั้งปีจากธุรกิจคลาวด์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top