เงินบาทเปิด 36.17 อ่อนค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ-บอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.17 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.94 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุล เงินหลัก หลังได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาด และบอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ตลาดยังรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แม้จะคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่จะส่งสัญญาณที่จะปรับ ดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค.อย่างไร รวมถึงการประเมินภาวะเศรษฐกิจ

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้มาพอสมควร เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุน จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดและบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น”

นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.00 – 36.30 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 151.40 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 150.36 เยน/ดอลลาร์ ทำนิวไฮในรอบปี จับตาดู สัญญาณการเข้าแทรกแซงจากธนาคารกลางญี่ปุ่น

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0573 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0637 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.017 บาท/ดอลลาร์

– “หุ้นไทย” พลิกกลับมา ร่วงหนัก บล.เอเซียพลัส ชี้ นักลงทุน ไม่เชื่อมั่นลงทุน เหตุสงครามไม่รู้จบเมื่อไร

-นโยบายแจง เงินดิจิทัลไม่ชัดเจน มองดัชนีผันผวน บล.ทิสโก้มองวอลุ่มเทรดลดลงต่อเนื่อง สะท้อนไม่มั่นใจลงทุน แต่ราคาหุ้นถูกแนะซื้อถือกลาง-ยาว บล.กสิกรไทย แนะจับตา 2 ปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางหุ้นไทย “ประชุมเฟด-ประมูลพันธบัตรสหรัฐ”

– ธปท. ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทย เดือนต.ค. และระยะต่อไป ยังขยายตัวต่อได้ จากบริโภคในประเทศ-ท่องเที่ยวหนุน จับ ตา “4 ปัจจัยเสี่ยง” การฟื้นตัวภาคส่งออก ความชัดเจนนโยบายรัฐ ภัยแล้งกระทบราคาสินค้าเกษตร ผลสงครามตะวันออกกลาง ต่อราคา พลังงาน อุปสงค์ต่างประเทศ ชี้ไตรมาส 3 บริโภค-ลงทุนยังชะลอ

– ครม. เห็นชอบให้ยกเว้นการยื่นวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) หรือการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว ให้แก่นักท่องเที่ยว อินเดียและไต้หวัน เป็นกรณีพิเศษ ระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่ 10 พ.ย.66-10 พ.ค.67 เพื่อให้พำนักอยู่ไทยได้ไม่เกิน 30 วัน ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซันของชาวอินเดียและไต้หวันขณะเดียวกันก็สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลไทยที่ต้องการกระตุ้นการ ท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศในระยะสั้นให้กลับมาคึกคักมากขึ้น

– นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเปิดเผยถึงการส่งออกข้าวเดือนก.ย.2566 ว่า มีปริมาณ 807,776 ตัน มูลค่า 17,220 ล้านบาท โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 26.5% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 48.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการส่งออกข้าวนึ่งและกลุ่ม ปลายข้าวเพิ่มขึ้นจากกรณีที่ผู้นำเข้ายังคงเร่งนำเข้าข้าวเพื่อชดเชยสต๊อกในประเทศที่ลดลงและสำรองไว้ใช้ในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ ท่าม กลางภาวะอุปทานข้าวในตลาดโลกที่ยังตึงตัวจากมาตรการจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียที่คาดว่าจะยังคงมีผลไปจนถึงต้นปี 2567 เป็น อย่างน้อย

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจ สหรัฐขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 4/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ

– ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ ระดับ 102.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 104.3 ในเดือนก.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ ระดับ 100 โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (31 ต. ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอก ภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (31 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่ นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

– คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะประกาศผลการประชุมในวันนี้ (1 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย และจากนั้นจะเป็นการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด

– นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาด การณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 188,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการ เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8% ในเดือนต.ค.

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top