GBS มอง SET วีคนี้ผันผวนในกรอบ 1,380-1,420 จุด เงินทุนไหลออกกดดัน จับตามาตรการแก้หนี้

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยหุ้นแกว่งผันผวน โดยมีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องจนดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,400 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงแรงยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,380-1,420 จุด

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าการส่งออกเดือนต.ค. เติบโต 8%YoY ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ดี ในช่วง 10 เดือนแรก มูลค่าการส่งออกลดลง 2.7%YoY กระทรวงพาณิชย์เชื่อมั่นว่าการส่งออกของไทยในช่วง 2 ที่เหลือของปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค. 66) จะยังสามารถขยายตัวเป็นบวกได้ ส่งผลให้ทั้งปี 66 จะติดลบเล็กน้อยที่ราว -1% และคาดว่าจะพลิกกลับมาขยายตัว 2% ในปี 67

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังกำลังเร่งสรุปพิจารณามาตรการสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของรัฐบาลซึ่งเป็นงานเร่งด่วนที่จะมีส่วนช่วยเหลือทั้งลูกหนี้ในระบบและนอกระบบ ทั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ รายงานว่าปลายงวดไตรมาส 2/66 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า 16.07 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.6%YoY โดยมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 90.6% ทรงตัวQoQ สินเชื่อเกือบทุกประเภทขยายตัวเพิ่มขึ้นมาจากหนี้เพื่ออสังหาริมทรัพย์และหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเป็นหลัก สำหรับ NPL มีมูลค่า 1.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.68%QoQ และคิดเป็นสัดส่วน 2.71% ต่อสินเชื่อรวม บ่งชี้ถึงความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนลดลงเล็กน้อย

ด้านปัจจัยที่ต้องจับตา ซึ่งจะมีผลกับตลาดหุ้นไทย อาทิ วันนี้ 28 พ.ย. การประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีแถลงเรื่อง “แก้หนี้นอกระบบ” วันที่ 29 พ.ย. ประชุม กนง. ครั้งที่ 6/2566 และวันที่ 30 พ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันนี้ 28 พ.ย. สหรัฐรายงานราคาบ้านเดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. และดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. วันที่ 29 พ.ย. สหรัฐ รายงาน GDP ไตรมาส 3/66 (ประมาณการครั้งที่ 2) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ 30 พ.ย. กำหนดการประชุม OPEC+ หารือเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันในปีหน้า จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนพ.ย. วันที่ 1 ธ.ค. ญี่ปุ่นรายงานอัตราว่างงานเดือนต.ค.และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย. สหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ดัชนี MSCI Global Standard ไม่มีหุ้นไทยที่ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณในครั้งนี้ ทั้งนี้ BGRIM, EGCO, RATCH ได้ย้ายมาคำนวณดัชนี MSCI Small cap และควรระวังแรงขายหุ้นที่มีการคัดออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Small cap ได้แก่ ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG และ VIBHA โดยมีผลในวันที่ 30 พ.ย. นี้

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ประเมินการปรับตัวลงของราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคลและดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต หากตัวเลขดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ

ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำสร้างรูปแบบ double top แล้วอ่อนตัวลงเป็นสัญญาณของขาขึ้นที่อ่อนแรง หากระหว่างสัปดาห์ราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้าน 2,010 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะนำทำกำไรในทิศทางขาลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top