MCA พุ่งพรวด 17.05% ทะลุ 2 บาทเสิร์ฟข่าวดี Q4/66 จ่อทำนิวไฮย้ำเป้าปีนี้-ปีหน้าโตทะยาน

หุ้น MCA ราคาพุ่ง 17.05% มาอยู่ที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 176.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.08 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.72 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.72 บาท

นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย (MCA) เปิดเผยว่า บริษัทประเมินอัตราการเติบโตในปีนี้ที่ 38% เป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งภาพธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีมองว่าอุตสาหกรรมโดยรวมยังมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลับมาจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดเช่นเดิม

ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทได้เริ่มทยอยรู้รายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท จากงานบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ที่เพิ่งได้งานมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งบริษัทให้บริการพนักงานจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) ตามระยะเวลาตามสัญญา 1 ปี ส่งผลให้ทิศทางรายได้ในไตรมาส 4/66 จะสามารถสร้างสถิติใหม่(นิวไฮ)

ขณะที่ MCA จะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดในช่วงการเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมกลับมามีความคึกคักในช่วงโค้งสุดท้าย นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาโปรเจ็คต์ใหม่ๆ ทั้งรูปแบบให้บริการพนักงานจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) รวมถึงผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) และอื่นๆ

สำหรับภาพรวมในปี 67 มองว่า MCA จะมีสัดส่วนรายได้จาก Distributor เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจกิจกรรมทางการตลาด หรือ Outsource จะเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก เพราะที่ผ่านมา Outsource หรือการจ้างบุคลากรภายนอกเพื่อจัดเรียงสินค้า ขายสินค้ามีเทรนด์การเติบโตสูง ส่วนกิจกรรมทางการตลาดอื่น อาทิ โรดโชว์ อีเวนท์ คาดว่าจะเติบโต 15-20% ส่งผลให้บริษัทฯ มองว่าการเติบโตจะมาจากทุกกลุ่มบริการจะผลักดันอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 30%

ด้าน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองกำไรปกติของ MCA ในปี 66 ที่ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% (YoY) ขณะที่รายได้รวม 499 ล้านบาท (+34% YoY) และกำไรปกติปี 67 ที่ 59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% (YoY) และรายได้คาดไว้ที่ 650 ล้านบาท (+30% YoY) ส่วน GPM ในปี 66-67 ประเมินไว้ที่ 22% สะท้อนโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับปี 65

บล. โกลเบล็ก จำกัด ประเมินรายได้จากการบริการของ MCA ในปี 66-67 ราว 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% (YoY) และ 625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% (YoY) ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับ 19% ต่อปี จึงใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในปี 66 ที่ระดับ 22.5% และปรับดีขึ้นเป็น 23% ในปี 67 พร้อมประเมินกำไรสุทธิในปี 66-67 ที่ 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% (YoY) และ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% (YoY) หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR) เท่ากับ 50% ต่อปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top