เงินบาทเปิด 34.60 ธุรกรรมเบาบางใกล้หยุดปีใหม่ คาดกรอบวันนี้ 34.50-34.70

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.60 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์

วันนี้ตลาดค่อนข้างเงียบ มีปริมาณธุรกรรมเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งมีบางตลาดที่ปิดทำการแล้ว

“บาทแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้เล็กน้อย แต่ยังเงียบ ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด บางตลาดปิดทำการ ทิศทาง Flow ค่อนข้างบางตา แค่หลักร้อยล้าน (บาท)” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.50 – 34.70 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 142.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 142.27 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0015 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นววานนี้ที่ระดับ 1.1004 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 34.602 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย เผยกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจรัสเซีย โดยเธอเป็นผู้ที่ช่วยรัสเซียในการรับมือกับผลกระทบที่จากการคว่ำบาตร หลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน
  • รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ขณะที่สัดส่วนตำแหน่งงานว่างต่อผู้สมัครงานอยู่ที่ 1.28 ในเดือนพ.ย. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 1.30 ในเดือน ต.ค. ซึ่งหมายความว่ามีตำแหน่งงานว่าง 128 ตำแหน่งต่อจำนวนผู้หางาน 100 คน ทั้งนี้ ข้อมูลแรงงานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้ประกอบการพิจารณานโยบายการเงิน
  • กลุ่มฮามาสปฏิเสธข่าวทางกลุ่มไม่ยอมรับข้อเสนอของอียิปต์ที่ต้องการให้ฮามาสสละอำนาจในการปกครองฉนวนกาซาเพื่อแลกกับการหยุดยิงอย่างถาวรตามที่มีสื่อรายงานก่อนหน้านี้
  • ประธานาธิบดีอิหร่าน ประกาศว่า อิสราเอลจะต้องชดใช้ต่อการสังหาร พล.ต.ไซอิด ราซี มูซาวี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC)
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ สิงคโปร์เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน พ.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือน ต.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top