จีน-อินโดนีเซียตั้งเป้าลดการผลิตนิกเกิล หลังอุปทานล้นตลาด จนราคาต่ำ เสี่ยงขาดทุน

นักลงทุนกับนักวิเคราะห์ระบุว่า จีนและอินโดนีเซียตั้งเป้าที่จะลดการผลิตนิกเกิลลงอย่างน้อย 100,000 ตันในปีนี้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตพยายามลดปัญหาการขาดทุน หลังจากราคานิกเกิลปรับตัวลดลง พร้อมเสริมว่าการมีการปรับลดการผลิตเพิ่มเติม หากผู้ผลิตต้องการกระตุ้นราคาให้สูงขึ้น และลดอุปทานส่วนเกินออกจากตลาด แทนที่จะหยุดแค่การขาดทุนเพียงอย่างเดียว

อนึ่ง นิกเกิลเป็นโลหะที่ใช้ในการผลิตสแตนเลส และรถยนต์ไฟฟ้า

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในปี 2565 ราคานิกเกิลพุ่งสูงขึ้นมากกว่าระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่ารัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ จะปรับลดการผลิตลงหลังจากรุกรานยูเครน ส่งผลให้ตลาดปรับลดการคาดการณ์ว่าราคาจะต่ำลง

อย่างไรก็ตาม ราคานิกเกิลได้ลดลงสู่ระดับประมาณ 16,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เนื่องจากมีการผลิตเพิ่มขึ้นในอินโดนีเซีย ซึ่งในปีที่แล้วครองสัดส่วนการผลิตนิกเกิลมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก ที่ประมาณ 3.4 ล้านตัน โดยในปี 2563 อินโดนีเซียครองสัดส่วน 30% ในอุปทานนิกเกิลโลก

อุปทานที่มากเกินไปบวกกับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งทำให้อุปสงค์ลดลง ส่งผลให้บริษัทเหมืองรายใหญ่ของโลกเช่น บีเอชพี (BHP) บริษัทเหมืองรายใหญ่ของออสเตรเลีย ได้ระงับการดำเนินงาน เลื่อนโครงการ หรือลดการผลิตลง

นักวิเคราะห์จากแมคควารี (Macquarie) ระบุว่า การลดกำลังการผลิตจนถึงขณะนี้ได้ลดอุปทานในปีนี้ไปแล้วกว่า 230,000 ตันหรือประมาณ 6% ของอุปทานที่อาจผลิตขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การลดการผลิตลงยังอาจไม่สามารถทำราคาสูงขึ้นได้

แหล่งข่าวจากบริษัทผลิตนิกเกิลรายใหญ่ระดับโลกกล่าวว่า จำเป็นต้องลดการผลิตลงให้มากกว่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางการเงิน

ทางด้านเบนช์มาร์ก มิเนอรัล อินเทลลิเจนซ์ (Benchmark Mineral Intelligence) คาดการณ์ว่า ต้องลดการผลิตลงกว่า 250,000 ตันในปีนี้ เพื่อให้เกิดความสมดุลในตลาดนิกเกิลทั่วโลก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 67)

Tags: ,
Back to Top