หุ้นไทยมี.ค.บวก 0.5%จากก.พ. รับส่งออกโต-ท่องเที่ยวคึกคัก Q1/67 ต่างชาติขาย 7 หมื่นลบ.

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมี.ค. 67 การประชุมสองสภาของจีนได้ตั้งเป้าการเติบโต GDP ในปี567 อยู่ที่ 5% อีกทั้งทางการจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือน มี.ค. เพิ่มเป็น 50.8 จากระดับ 49.1 ในเดือน ก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 66 ซึ่งเป็นช่วงหลังยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ซึ่งการกลับมาเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะยิ่งสนับสนุนให้การส่งออกสินค้าและบริการของไทย รวมถึงการบริโภคภายในประเทศให้ฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น โดยนักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรของบริษัทในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ราคาหลักทรัพย์กลุ่มดังกล่าวให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

โดย ณ สิ้นเดือนมี.ค. 67 SET Index ปิดที่ 1,377.94 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้าซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ปรับลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยที่เป็นบวกเป็นเดือนที่ 7 และการท่องเที่ยวที่คึกคัก ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในไตรมาส 1/67 สูงถึง 9.3 ล้านคน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 2 ล้านคน

ขณะที่ในเดือนมี.ค. 67 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 66 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ กลุ่มการเงิน และ กลุ่มทรัพยากร และมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai ในเดือนมี.ค. 67 อยู่ที่ 42,782 ล้านบาท ลดลง 30.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหลังจากซื้อสุทธิในเดือนก่อนหน้า โดยในเดือนมี.ค. 67 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 41,238 ล้านบาท ทำให้ใน 3 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 68,862 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 23

ด้าน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมี.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.5 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมี.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 3.30% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.23%

ส่วนในเดือนมี.ค. 67 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI)

สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนมี.ค. 67 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 499,897 สัญญา เพิ่มขึ้น 26.9% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในไตรมาส 1/67 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 432,895 สัญญา ลดลง 27.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top