CONSENSUS: ดักเก็บ HMPRO รับกำลังซื้อฟื้นชัดครึ่งปีหลัง-Digital Wallet

โบรกเกอร์เชียร์ “ซื้อ” หุ้น บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) แม้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 อาจยังเติบโตไม่มาก แต่ทิศทางยอดขายมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีมากในช่วงครึ่งปีหลังจากกำลังซื้อที่ได้แรงหนุนจาก Digital Wallet และการใช้จ่ายของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาในปีนี้ต่อเนื่อง ประกอบกับราคาหุ้นยังมี Upside

ราคาหุ้น HMPRO บ่ายวันนี้อยู่ที่ 10.50 บาท

นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี พัฒนสิน มองว่า HMPRO แม้ว่าผลประกอบการ (Earning) ในไตรมาส 1/67 อาจไม่โดดเด่น เพราะกำลังซื้อลดลงเห็นได้ชัดหลังจบมาตรการ Easy e-Receipt ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดย HMPRO ติดลบ 2% และ Mega Home ติดลบ 5% ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้นเพียง 2% มาที่ 1,640 ล้านบาทจากไตรมาส 1/66 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 ก็ลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ภาพรวมในไตรมาส 1/67 ไม่ได้เหนือความคาดหมาย แต่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเห็นการใช้จ่ายของภาครัฐหลังจากสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ กำลังซื้อฟื้นตัว โดยงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐน่าจะเห็นออกมามากในปลายไตรมาส 2/67 และน่าจะเห็นเร่งตัวขึ้นอีกในไตรมาส 3/67 ประกอบกับ ไตรมาส 4/67 จะได้รับแรงหนุนจาก Digital Wallet ที่จะช่วย HMPRO ทางอ้อมที่จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ปี 67 คาดว่า HMPRO มีกำไรสุทธิ 6,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปี 66 ที่มีกำไร 6,400 ล้านบาท แนะ “ซื้อลงทุน” มองราคาหุ้นในปัจจุบันค่อนข้างถูก P/E 21 เท่าถูกที่สุดในกลุ่ม เทียบกับ DOHOME 33 เท่า และ GLOBAL 27 เท่า เป็นจังหวะที่จะเข้าเก็บรอการฟื้นตัวครึ่งปีหลัง

ขณะที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรของ HMPRO ในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ แต่ประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเราในปัจจุบันมี Upside จำกัด คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปลายปี 67 เดิมที่ 13.00 บาท อิงจาก PER ที่ 24.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศและต่างประเทศ-2.0 S.D.)

คาด HMPRO จะรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 ที่ 1.7 พันล้านบาท (+6% YoY และ +2% QoQ) หนุนจากยอดขายที่ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ กำไรในไตรมาส 1/67 คิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

สัญญาณบางอย่างชี้ว่ามีความเป็นได้ที่อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นจาก 1) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค(CCI) อยู่ที่ 63.0 ในเดือนมี.ค.67 ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 40.2 ในเดือน พ.ค.65 และใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 67.6 2) การเข้าสู่ฤดูร้อนด้วยอุณหภูมิที่ 43-44.5 องศา C และคาดว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยช่วงเดือนมี.ค.และพ.ค. 67 ราว 0.5-1.9 องศา C และ 3) ผลบวกจากแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ (easy e-receipt) ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.67

ปัจจัยดังกล่าวช่วยชดเชยบางส่วนกับ sentiment การจับจ่ายใช้สอยที่อ่อนแอ และ ทำให้ยอดขายสาขาเดิม (SSS: same store sales) ในไตรมาส 1/67 ลดลงเป็นเลขหลักเดียว (เทียบกับ +5.8% ใน Q1/66 และ -8.5% ใน Q4/66) เมื่อรวมกับผลของการขยายสาขา (มี 128 สาขา ณ สิ้นงวด Q1/67 เทียบกับ 120 สาขา สิ้นงวด Q1/66) เราประเมินว่า HMPRO จะรายงานยอดขายรวมในในไตรมาส 1/67 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท (+7% YoY และ +9% QoQ)

เราคาด HMPRO จะมีอัตรากำไรขึ้นต้นในไตรมาส 1/67 อยุ่ที่ 26.0% (-10bps YoY และ -130bps QoQ) เทียบกับสมมติฐานปี 67 ของเราในปัจจุบันอยู่ที่ 26.8% โดยอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะอ่อนตัวจาก i) ปัจจัยฤดูกาล, ii) สัดส่วนของ product mix (อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า) และ iii) ส่วนผสมของยอดขาย (ยอดขายจาก Mega Home มากขึ้น)

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของร้านรูปแบบ Mega Home ต่ำกว่ารูปแบบ HomePro ราว 3-4% โดย ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/66 มีร้านรูปแบบ Mega Home อยู่ที่ 15 ร้าน และเพิ่มเป็น 21 ร้าน ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/67

สำหรับสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายในไตรมาส 1/67 น่าจะลดลงอยู่ที่ 18.4% (เทียบกับ 18.5% ใน 1Q66 และ 20.8% ใน 4Q66) เนื่องจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคต่ำลง (ค่าไฟฟ้า (electricity tariff) ลดลง 20% YoY โดยค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคคิดเป็น 1-2% ของยอดขายรวม)

ทั้งนี้ ยังคงคาดว่ากำไรมีโมเมนตัมเชิงบวกในครึ่งหลังปี 67 ด้วยแรงหนุนจาก sentiment และกำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจการมากขึ้นหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าประมาณการกำไรปี 2567F ในปัจจุบันของเรายังคงมี upside จำกัด

คงคำแนะนำ “ซื้อ” HMPRO และคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 13.00 บาทอิงจาก PER ที่ 24.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศและต่างประเทศ-2.0 S.D.) หรือเท่ากับ PEG ที่ 2.4x บน EPS ปี 2567

ด้าน บล.เอเอสแอล คาดว่าผลประกอบการ HMPRO ในไตรมาส 1/67 มีรายได้จากการขายและค่าเช่า 1.8 หมื่นล้านบาท (+3.5%YoY,+5.4%QoQ) รายได้เติบโตด้วยแรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ในปี 66 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Mega Home ที่เปิดสาขาใหม่ถึง 9 แห่ง แม้ว่ายอดขายจากสาขาเก่า (SSSG) จะติดลบ 2-3%YoY

อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยลดลงเป็น 27.1% จากไตรมาส 4/66 ที่ 28.3% และทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ 27% เนื่องจากยอดขายมาจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำได้ดี ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐ E-Receipt ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ไม่สูง ขณะเดียวกันยอดขายจาก Mega-Home ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่า HMPRO จากสาขาใหม่ทำได้ดี

ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 3.3 พันล้านบาท (+4.7%YoY,-4.7%QoQ) ลดลง QoQ เนื่องจากในไตรมาส 4/66 มีการจัดกิจกรรมทางการตลาด และมีการปรับปรุงค่าใช้จ่ายบางรายการทำให้มีค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูง คาดบริษัทมีกำไรปกติที่ 1.7 พันล้านบาท (+6.7%YoY,+2.5%QoQ) เติบโตดี ได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลงเมื่อเทียบกับ QoQ

HMPRO คงแผนการขยายสาขา Size ใหญ่เพิ่ม คาดเปิดสาขาใหม่ในปี 67 จำนวน 4 สาขา และ Mega Home จำนวน 4 สาขา โดยส่วนใหญ่เปิดสาขาในช่วง H2/67 มองแผนการขยายสาขา Maga Home ที่ต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มากขึ้น โดยเฉพาะสาขาในต่างจังหวัด คาดได้รับการตอบรับดีในอนาคตโดย ณ สิ้นปี 67 บริษัทจะมี HMPRO จำนวน 93 สาขา Mega-Home จำนวน 31 สาขา และ Homepro S 5 สาขา

คาด SSSG ในไตรมาส 1/67 ของ Homepro -2-3% YoY และ Mega Home -5%YoY ผลกระทบของ SSSG เกิดจากกำลังซื้อที่ลดลง และฐานสูง ขณะที่ได้ประโยชน์บางส่วนจากมาตรการ Easy E-receipt ทำให้ SSSG เฉพาะในเดือน ก.พ.+4%YoY ทั้งนี้เราคาด SSSG ใน Q2/67 จะได้ประโยชน์จากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าบรรเทาอากาศร้อน และ PM2.5 จะเป็นส่วนช่วยหนุนยอดขายระหว่างไตรมาส ขณะเดียวกันใน H2/67 ยอดขายได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐทั้งจาก Digital wallet มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ รวมถึงการเริ่มใช้งบประมาณปี 67 ของรัฐช่วยหนุน คาด SSSG พลิกกลับมาเป็นบวกได้คาด +3%YoY

แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสมปี 67 ที่ 13.70 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี DCF ( WACC 6.4% ,TG 2%) ปัจจุบัน HMPRO ซื้อขายระดับ PE ที่ -2SD ที่ 22 เท่า ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 33 เท่า คาดแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐและการกลับมาของนักท่องเที่ยวช่วยหนุนกำลังซื้อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 เม.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top