“เจแปน แอร์ไลน์” เล็งเพิ่มความหลากหลายในที่ทำงานภายใต้การนำของซีอีโอหญิงคนแรก

นางมิตสึโกะ ทตโตริ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ (JAL) เปิดเผยว่า เธอจะส่งเสริมความหลากหลายในที่ทำงานและธุรกิจ ในขณะที่เธอวางกลยุทธ์เพื่อผลักดันการเติบโตของสายการบินหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฐานะซีอีโอหญิงคนแรก

ทั้งนี้ นางทตโตริแสดงความมั่นใจว่า JAL จะมีพนักงานหญิงทำงานตำแหน่งด้านการจัดการอย่างน้อย 30% ของตำแหน่งด้านการจัดการทั้งหมดในช่วงหนึ่งปีจนถึงเดือนมี.ค. 2568 ซึ่งจะเป็นการบรรลุเป้าหมายล่วงหน้าจากที่วางแผนเอาไว้ 1 ปี

นางทตโทริกล่าวในการประชุมกับสื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า “ทุกคนในบริษัทกำลังทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เรามีร่วมกัน ดิฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นพิเศษ” โดยจำนวนพนักงานหญิงมีสัดส่วนอยู่ที่ 29.8% ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีนี้

ทั้งนี้ การแต่งตั้งนางทตโทริขึ้นแท่นผู้บริหารในวันที่ 1 เม.ย. นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาในอุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลก โดยไม่ใช่แค่เพราะเธอเป็นซีอีโอหญิงคนแรกของ JAL เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเธอเริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่สายการบินโทอา โดเมสติก แอร์ไลน์ (Toa Domestic Airlines Co.) ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นเจแปน แอร์ ซิสเต็ม (Japan Air System Co.) และในเวลาต่อมาได้ผนวกเข้ากับ JAL ก่อนจะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าในท้ายที่สุด

นางทตโทริกล่าวว่า “เราได้เพิ่มความพยายามในการทำให้ผู้หญิงทำงานได้อย่างสบายใจมากขึ้น เพื่อให้พวกเธอสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้หลังผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต” โดย JAL ได้เปิดตัวมาตรการต่าง ๆ เช่น การลาเพื่อรักษาภาวะมีบุตรยาก และระบบการเลื่อนขั้นที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ภายใต้แผนธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งมีระยะเวลา 5 ปีจนถึงเดือนมี.ค. 2569 JAL มีแผนจะจ้างงานชาวต่างชาติในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น และส่งเสริมมาตรการที่มอบหมายให้พนักงานทำงานในบริษัทนอกกลุ่ม JAL ได้เป็นการชั่วคราว เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานใหม่ ๆ ให้กับพวกเขา

ทั้งนี้ JAL กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นไม่ถึง 1% ที่มีผู้นำเป็นผู้หญิง โดยผลสำรวจบริษัทชั้นนำในกลุ่มไพรม์ (Prime) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว 1,800 แห่งที่จัดทำโดยสำนักข่าวเกียวโดและเทโคคุ ดาต้าแบงก์ (Teikoku Databank) จนถึงเดือนม.ค.ปีที่แล้วเผยให้เห็นว่า บริษัทที่มีประธานเป็นผู้หญิงมีสัดส่วนคิดเป็นเพียง 0.8% เท่านั้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top