เงินบาทเปิด 36.74 แข็งค่า รับดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ชะลอหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐสูงกว่าคาด

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 36.74 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่า จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.93 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุล เงินหลักยกเว้นเยน หลังตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ ปรับตัวลดลง

ส่วนปัจจัยในประเทศต้องรอดูกระแสเงินทุนต่างประเทศ (Flow) จากการส่งออกทองคำ หลังราคาทองในตลาดโลกปรับเพิ่ม ขึ้น “บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ลงมาเกือบ 20 สตางค์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าตามบอนด์ยีลด์ หลังยอดขอรับสวัสดิการว่าง งานออกมาแย่กว่าคาด”

นักบริหารเงินฯ กล่าว นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.60 – 36.90 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ 155.49 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 155.93/95 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ 1.0777 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0729/0733 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 36.918 บาท/ดอลลาร์

– สบน.เตรียมเสนอระดับนโยบายเห็นชอบในหลักการของการออกพันธบัตร (บอนด์) สกุลเงินต่างประเทศ เพื่อเป็นแหล่งทุน ใหม่ของรัฐบาล โดย สบน.ศึกษาพบว่าแนวทางการออกบอนด์จะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย วงเงินศึกษาประมาณ 500-1,500 ล้านเหรียญ สหรัฐ แต่เท่าที่สอบถามนักลงทุนต่างชาติเห็นว่าขนาดของบอนด์ควรประมาณ 500-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ เข้าลงทุนบอนด์ของไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะผลจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ภูมิภาคเราเป็นที่สนใจของนักลงทุน

– รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัด เพชรบุรี กระทรวงการคลังจะเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่องการแก้ไขกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% สำหรับ สินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์นำเข้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งหลังจาก ครม.เห็นชอบแล้ว จะส่งร่าง ประกาศกระทรวงการคลัง ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ เพื่อนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

– ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้รายงานมาตรการการตลาดการท่องเที่ยวระยะสั้นของ ททท.ช่วงโลว์ซีซัน เดือน พ.ค.-ก.ย.67 ต่อ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่า มี 8 มาตรการ

– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ ระดับ 215,000 ราย

– นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การชะลอตัวของตลาดแรงงานอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลง 2 ครั้งในปีนี้

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (9 พ. ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยในปีนี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่า คาด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในปีนี้

– นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยสหรัฐ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันที่ 14 พ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 พ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top