บอร์ดรฟท.ไฟเขียวแก้สัญญาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินพร้อมปลดล็อกออกใบอนุญาตก่อสร้าง

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน วันนี้ ( 23 พ.ค. ) ได้รับทราบข้อสรุปผลการเจรจาเรื่อง หลักการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ตามที่รฟท. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (บริษัทในเครือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด) คู่สัญญาผู้รับสัมปทานฯ ในการแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ

ขั้นตอนจากนี้จะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสัญญา คณะกรรมการกำกับสัญญาฯ ตามมาตรา 19 ของประกาศอีอีซี และสกพอ.เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และคณะรัฐมนตรี เพื่อตรวจสอบการแก้ไขหลักการ สัญญาต่อไป ทั้งนี้การเจรจาแก้ไขสัญญาอยู่ภายใต้หลักการภาครัฐ จะต้องไม่เสียผลประโยชน์มากเกินกว่าที่อยู่ในกรอบสัญญา และเอกชนจะไม่ได้รับผลประโยชน์เกินควร

สำหรับการแก้ไขสัญญา มี 3 ประเด็น คือ

1. ประเด็นให้เอกชนผ่อนชำระค่าสิทธิร่วมลงทุนโครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ (ARL) โดย รฟท.ได้รับค่าสิทธิฯ ครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาสของ รฟท.อีกจำนวน 1,060 ล้านบาท รวมเป็น 11,717.09 ล้านบาท โดยให้ผ่อนจ่าย 7 งวด โดยงวดที่ 1-6 ชำระงวดละ 10% งวดที่ 7 จะชำระส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งกพอ.ได้เห็นชอบและรายงานครม.รับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว

2.เงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ (PIC) คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 119,425 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้รัฐร่วมลงทุนในปีที่ 6 -ปีที่ 15 หรือเมื่อก่อสร้างโครงการเสร็จเปิดเดินรถแล้ว แต่เนื่องจากการดำเนินงานมีปัญหาอุปสรรค ทั้งโรคโควิด-19 สถานการณ์สงคราม รัสเซีย – ยูเครน และวิกฤตการณ์ของระบบสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เอกชนไม่สามารถกู้เงินได้ จึงเสนอแก้ไข ปรับการจ่ายเงินที่ฝ่ายรัฐร่วมลงทุนให้เร็วขึ้น เป็นเดือนที่ 18 หรือประมาณ 1 ปีครึ่ง นับจากออก NTP ซึ่งจะเป็นการปรับจาก รัฐจ่ายร่วมลงทุนเมื่อโครงการเสร็จเป็น สร้างไป- จ่ายไป

3. รฟท.และสกพอ.เจรจา ให้ทางเอกชน วางหนังสือค้ำประกันสัญญาเป็นแบงก์การันตี เพิ่มเติม 2 ส่วนคือ 1. แบงก์การันตรีในส่วนของค่าสิทธิร่วมลงทุนแอร์พอร์ต เรลลิงก์ จำนวน 10,671.09 ล้านบาท 2 .แบงก์การันตี เงินฝ่ายรัฐร่วมลงทุน วงเงิน 119,425 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้ภาครัฐต้องการความมั่นใจว่าเอกชนคู่สัญญาจะสามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ กรณีปรับเงื่อนไขการจ่ายเงืนภาครัฐจากปีที่ 6 เป็นสร้างไปจ่ายไป

ส่วนเงื่อนไขออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) ที่ระบุให้เอกชน ผู้รับสัมปทานฯ ต้องขอส่งเสริมการลงทุนกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก่อนนั้น เนื่องจากเลยระยะเวลาและขั้นตอนการขอสิทธิประโยชน์แล้ว และเจรจาเอกชนตกลงตัดบีโอไอออกจากเงื่อนไขการออก NTP ของสัญญาร่วมลงทุนฯ

นายอนันต์ กล่าวว่า การเจรจาได้ข้อยุติและนำเสนอตามขั้นตอนครบถ้วนมีการนำเสนอร่างสัญญาฉบับแก้ไข และลงนามแก้ไขสัญญาเสร็จสิ้น รฟท.ออกหนังสือเริ่มงาน หรือ NTP ได้ภายในปลายปี 2567 จะเป็นการเริ่มต้นหรือคิกออฟโครงการ ซึ่งรฟท.มีความพร้อมในการส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนทั้ง 100% แล้ว โดยจะเร่งรัดให้ก่อสร้างในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อโครงการอื่น เช่น โครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟไทย-จีน และการเชื่อมเข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่ต้องก่อสร้างลอดใต้รันเวย์เป็นต้น โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี นับจากปี 2567 แล้วเสร็จปี 2572

สำหรับงานช่วงโครงสร้างร่วมกับ โครงการไฮสปีด ไทย-จีน สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง นั้น ทางเอเชีย เอรา วัน ดำเนินการก่อสร้างตามเงื่อนไขเดิมที่กำหนดให้ ทางไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินก่อสร้างฐานรากตอม่อ และโครงสร้างทางวิ่ง ส่วนงาน 4-1 ของรถไฟไทย- จีน ถือเป็นงานเพิ่มเติม(VO) ที่ทางรถไฟไทย-จีนจะเพิ่มกรอบวงเงินในส่วนนี้ให้ไป ประมาณ 4,000 ล้านบาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top