ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในสัปดาห์หน้า โดยหุ้นขนาดเล็กที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,393.78 จุด เพิ่มขึ้น 297.01 จุด หรือ +0.72%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,626.02 จุด เพิ่มขึ้น 30.26 จุด หรือ +0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,683.98 จุด เพิ่มขึ้น 114.30 จุด หรือ +0.65%
ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวปิดตลาดใกล้ระดับสูงสุดในรอบราว 2 สัปดาห์ และปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.02% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.95% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์รายสัปดาห์สูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2.60%
เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% นั้น เพิ่มขึ้นเป็น 49% ในวันศุกร์ จาก 28% ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่ความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% นั้นอยู่ที่ 51%
บิลล์ ดัดลีย์ อดีตประธานเฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีโอกาสอย่างมากที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
รายงานจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล และสื่ออื่น ๆ ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีระบุว่า เฟดเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากว่า จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเพียงใดในวันที่ 18 ก.ย.นี้
จิม แบร์ด หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Plante Moran Financial Advisors ในเซาท์ ฟิลด์ รัฐมิชิแกนกล่าวว่า “มีข่าวลือเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งว่า เฟดจะหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%”
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ในตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากการเปิดเผยราคาผู้ผลิตและราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากขึ้นนั้น ช่วยหนุนดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ในวันศุกร์ รวมถึงดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000 ซึ่งพุ่งขึ้น 2.5% ในวันศุกร์ และ 4.4% ในรอบสัปดาห์นี้
บริษัทขนาดเล็กมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากพึ่งพาเงินกู้และสินเชื่อดอกเบี้ยลอยตัวอย่างมาก
แบร์ดระบุว่า ตลาดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จะไม่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
“หากนักลงทุนมองว่าเฟดต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจย่ำแย่ คุณจะไม่เห็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นขนาดเล็ก ปรับตัวขึ้นแบบนี้” แบร์ดกล่าว “วันนี้เรากลับเห็นหุ้นในกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่าปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง”
เจสัน ไพรด์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและการวิจัยของ Glenmede ในฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดในวันศุกร์น่าจะมาจากความคิดเห็นของดัดลีย์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ดีขึ้นในเดือนก.ย. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลง แม้ว่าชาวอเมริกันยังคงระมัดระวังก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้
ผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 69.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 68.3 จากระดับ 67.9 ในเดือนส.ค.
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นอูเบอร์ (Uber) พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากที่บริษัทบริการแพลตฟอร์มเรียกรถรับส่งรายนี้ประกาศว่า จะเริ่มให้บริการเรียกรถอัตโนมัติในออสติน รัฐเท็กซัส และในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย โดยร่วมมือกับ เวย์โม (Waymo) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบท (Alphabet)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 67)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก