ASW ครึ่งปีหลังติดเครื่องพอร์ตใหญ่ภูเก็ตจ่อโอนบิ๊กล็อตต่อเนื่องหลังยอดขายพีคช่วงไฮซีซั่น

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ [ASW] กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/68 บริษัทยังคงพัฒนาโครงการเพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด พร้อมกับบริหารจัดการสภาพคล่อง และรักษากระแสเงินสด (Cash Flow) ให้แข็งแกร่ง

ASW มุ่งโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยให้ได้ตามแผนงาน ทั้งโครงการสร้างเสร็จใหม่ในไตรมาสแรกที่ยังคงทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง และโครงการสร้างเสร็จใหม่ที่เตรียมรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/68 อีกจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ แอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน (Atmoz Palacio Ladprao-Wanghin) คอนโดมิเนียมแบบ Low-rise ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่า 1,750 ล้านบาท และ แอทโมซ แคนวาส ระยอง (Atmoz Canvas Rayong) คอนโดมิเนียมแบบ Low-rise ติดเซ็นทรัล ระยอง มูลค่า 1,250 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 68 บริษัทมีแผนโอนกรรมสิทธิ์และทยอยรับรู้รายได้จากโครงการสร้างเสร็จใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท ไฮไลต์สำคัญคือโครงการ Leisure Residences ขนาดใหญ่ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา (THE TITLE Legendary Bang-Tao) คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีใกล้หาดบางเทา มูลค่า 4,500 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของ บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ [TITLE] บริษัทย่อยในเครือ ที่พัฒนาใกล้แล้วเสร็จและจะเป็นแรงหนุนที่สำคัญต่อการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

ขณะที่ภาพรวมของพอร์ตโครงการในภูเก็ตในช่วงไฮซีซั่นที่ผ่านมา (ระหว่างช่วงปลายไตรมาส 3/67-ไตรมาส 1/68) สามารถสร้างสถิติใหม่ทำยอดขายไปได้ถึง 8,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซั่นก่อนหน้า ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง ขยายการพัฒนาโครงการไปยังทำเลอื่นที่มีศักยภาพ นอกเหนือจากกรุงเทพฯและปริมณฑล

“เรามีโครงการพร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง แต่เราก็ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานความไม่ประมาท และคอยมอนิเตอร์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พร้อมที่จะปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับทุกสถานการณ์ เราเชื่อว่าความยืดหยุ่นและความพร้อมในการปรับตัวอยู่เสมอ คือหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความไม่แน่นอน และมั่นใจว่า ASW จะยังขับเคลื่อนรายได้และยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to Move) ทุกระดับราคา มูลค่ารวม 9,968 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงค์จากปัจจัยบวกเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย อาทิ อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ของสถาบันการเงิน กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง นโยบายด้านภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาที่กระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศไทย รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/68 สามารถทำรายได้รวม 1,804 ล้านบาท เติบโตราว 3% จากไตรมาสแรกของปี 67 และทำกำไรสุทธิทั้งสิ้น 201 ล้านบาท โดยโครงการที่เป็นแรงหนุนสำคัญในการรับรู้รายได้ คือกลุ่มโครงการบ้านแนวราบ และโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 2 โครงการ คือ เคฟ โคโค่ บางแสน (Kave COCO Bangsaen) โครงการแคมปัสคอนโดติด ม.บูรพา มูลค่า 2,000 ล้านบาท และแอทโมซ ซีซั่น ลาดกระบัง (Atmoz Season Ladkrabang) คอนโดใจกลางลาดกระบัง มูลค่า 1,100 ล้านบาท

“ช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา ASW สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 8,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 33% และคิดเป็น 43% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 19,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจ แม้อยู่ท่ามกลางสภาวะตลาดที่มีความท้าทาย และได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ผันผวน ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1/68 รวมกว่า 30,636 ล้านบาท ที่จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับรู้รายได้เข้าสู่บริษัทต่อเนื่องไปจนถึงปี 70 ซึ่งจะเป็นฐานที่แข็งแกร่งและช่วยขับเคลื่อนให้ ASW เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top