DE เตือนข่าวปลอม! “พายุหอยหมีเข้าไทย” สร้างความสับสน-ทำประชาชนเข้าใจผิด

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “พายุหอยหมีเข้าไทย วันที่ 9-13 พ.ค. 68” รองลงมา คือ เรื่อง “ตลาดทุเรียนราคาลดลง เนื่องจากรถขนส่งทุเรียนไทยติดด่านจีนจำนวน 500 คัน” โดยขอให้ประชาชนเลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เพราะอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล สับสน และเข้าใจผิดในสังคม

ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 9-15 พฤษภาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 817,414 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 623 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 581 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 42 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 217 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 99 เรื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

  • กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 113 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 38 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 12 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 7 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 47 เรื่อง

โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

  • อันดับที่ 1 : เรื่อง พายุหอยหมีเข้าไทย วันที่ 9-13 พ.ค. 68
  • อันดับที่ 2 : เรื่อง ตลาดทุเรียนราคาลดลง เนื่องจากรถขนส่งทุเรียนไทย ติดด่านจีน จำนวน 500 คัน
  • อันดับที่ 3 : เรื่อง กลุ่มผู้ก่อการร้าย 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร่อนใบปลิวเตรียมก่อเหตุต่อชาวไทยพุทธ
  • อันดับที่ 4 : เรื่อง พบหมูเถื่อนปนเปื้อนเชื้อโรค นำเข้าจากจีน ส่งขายทั่วประเทศไทย
  • อันดับที่ 5 : เรื่อง ตม. เปิดเว็บไซต์ TDAC สำรอง รองรับการลงทะเบียนเข้าประเทศ
  • อันดับที่ 6 : เรื่อง ผักชีฝรั่งเสี่ยงทำให้แท้งลูก
  • อันดับที่ 7 : เรื่อง ออมสิน เปิดลงทะเบียนให้กู้เงิน 1 แสนบาท 1,083 บาท ส่งดอกเบี้ย 0.5% คงที่ ติดต่อทาง TikTok
  • อันดับที่ 8 : เรื่อง ผู้รับจ้างขายงานอาคารสำนักงานเขตลาดกระบังแห่งใหม่ ที่ยังสร้างไม่เสร็จให้ทุนจีน
  • อันดับที่ 9 : เรื่อง จีนซื้อแพ็กเกจ VIP ผ่าน ตม. มีรถนำขบวนรับเข้าไทย
  • อันดับที่ 10 : เรื่อง กรมสรรพากร ส่งอีเมลแจ้งการไม่แสดงยอดภาษีที่ต้องชำระจริง

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “พายุหอยหมีเข้าไทย วันที่ 9-13 พ.ค. 68” กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดีอี ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ชื่อของพายุดังกล่าว ไม่มีในสารบบของรายชื่อพายุหมุนเขตร้อน ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงประเทศไทย มีแต่พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเท่านั้น โดยจะมีลักษณะเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนอย่าแชร์หรือส่งต่อข่าวดังกล่าว และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น

ส่วนข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “ตลาดทุเรียนราคาลดลง เนื่องจากรถขนส่งทุเรียนไทย ติดด่านจีนจำนวน 500 คัน” กระทรวงดีอี ได้ตรวจสอบร่วมกับกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า กรมศุลกากรได้ทำการตรวจสอบกับทางสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ให้ข้อมูลว่า การติดสติ๊กเกอร์ CCIC ไม่มีผลต่อลำดับการตรวจของศุลกากรจีน โดยปัจจุบันศุลกากรหนานหนิง มีระบบที่ผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารประกอบการนำเข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และระบบสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ นอกจากนี้ ศุลกากรหนานหนิงยังมีมาตรการอำนวยความสะดวกเปิดช่องทางสีเขียวสำหรับการนำเข้าสินค้าผลไม้จากประเทศอาเซียนในทุกด่าน ตลอดจนการให้ Priority กับสินค้าผลไม้เป็นอันดับแรก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top