
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งขึ้น 3.5% ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 66 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (21 พ.ค.) หลังจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายรายว่า สหรัฐฯ ได้รับข่าวกรองชุดใหม่ที่บ่งชี้ว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีเป้าหมายในโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แม้ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาทางการทูตกับอิหร่านก็ตาม
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า หากอิสราเอลตัดสินใจดำเนินการโจมตีจริง จะถือเป็นการสวนทางกับท่าทีของทรัมป์ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ลุกลามในวงกว้างทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งสหรัฐฯ พยายามหลีกเลี่ยงนับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาทำให้สถานการณ์ตึงเครียดนับตั้งแต่ปี 2566
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าผู้นำอิสราเอลได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายแล้วหรือไม่ อีกทั้งยังมีความเห็นที่แตกต่างกันภายในรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะลงมือจริง โดยท่าทีของอิสราเอลอาจขึ้นอยู่กับมุมมองต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯ กำลังเจรจากับอิหร่าน
ข้อมูลจากหน่วยงานด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า อิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับสามในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในปี 2567 รองจากซาอุดีอาระเบียและอิรัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 68)
Tags: WTI, ราคาน้ำมัน