
ญี่ปุ่นเตรียมใช้การจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในแต้มต่อระหว่างการเจรจาทางการค้า เพื่อแลกกับการผ่อนปรนมาตรการภาษีนำเข้า ก่อนถึงกำหนดการขึ้นภาษีในเดือนก.ค.นี้
เรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาภาษีของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (29 พ.ค.) ขณะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน เพื่อร่วมการเจรจารอบที่ 4 กับฝ่ายสหรัฐฯ โดยเขาระบุว่า ญี่ปุ่นมีแผนหารือถึงการขยายความร่วมมือในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งแก้ไขอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีระหว่างสองประเทศ
หนึ่งในข้อเสนอหลักที่ญี่ปุ่นเตรียมนำเสนอคือ การจัดซื้ออุปกรณ์ทางทหารจากสหรัฐฯ โดยอาคาซาวะกล่าวว่า การจัดซื้อเหล่านี้จะส่งผลให้สหรัฐฯ มีดุลการค้าเกินดุลกับญี่ปุ่น จึงควรถูกพิจารณาเป็นปัจจัยร่วมในการเจรจาทางการค้า
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเสนอแนวทางความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีการต่อเรือ การปรับปรุงมาตรฐานการตรวจสอบรถยนต์นำเข้า และการเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจการเจรจา
ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างอาคาซาวะและสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ มีกำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์นี้ (30 พ.ค.) ที่กรุงวอชิงตัน โดยหากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันเวลา ญี่ปุ่นก็จะเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าระดับ 24% ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะเร่งกระบวนการเจรจาการค้าให้คืบหน้าก่อนถึงการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 มิ.ย. ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ จะพบปะกันโดยตรง
ด้านแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการเจรจาระบุว่า แม้ศาลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่งมีคำตัดสินให้ระงับแผนการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ฝ่ายญี่ปุ่นก็ยังยืนยันว่า จะไม่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่จะใช้ในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 68)
Tags: ญี่ปุ่น, ภาษีนำเข้า, เจรจาการค้า