
นายเว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ร็อคเทค โกลบอล [ROCTEC] เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 68/69 บริษัทได้ลงนามในสัญญาเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณงานที่คาดการณ์ไว้มากกว่า 4,000 ล้านบาท ช่วยเสริมความชัดเจนในด้านรายได้ล่วงหน้า รวมทั้งการที่บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพงานต่าง ๆ ที่เคยทำให้ลูกค้า ทำให้ยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง โดยจะหนุนรายได้เติบโตในระดับเลขสองหลักตามเป้าหมาย
สำหรับการขยายระยะเวลาการดำเนินธุรกรรม การจำหน่ายหุ้น 50% ในบริษัท ฮัลโหล บางกอก แอลอีดี จำกัด (Hello LED) ให้แก่บมจ.แพลน บี มีเดีย [PLANB] ที่ขยายระยะเวลาการดำเนินธุรกรรมถึง 14 ส.ค. 70 เพื่อสะท้อนการบริหารความเสี่ยง อย่างรอบคอบท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวเป็นการริเริ่มโดย PlanB และการปรับเงื่อนไข นี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568
โดยในกรณีที่ธุรกรรมยังไม่เสร็จสิ้น บริษัทจะยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก Hello LED อยู่ ซึ่งที่ผ่านมามีส่วนแบ่งกำไรอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้บริษัทจะได้รับเงินมัดจำ 24 ล้านบาทต่อไตรมาส หากรวมจนถึงเดือนส.ค. 70 จะเป็นจำนวนเงิน 240 ล้านบาท ดังนั้นธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้เป็นผลลบต่อบริษัทแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีเจตนารมณ์ในการจำหน่าย Hello LED เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Solutions) อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา บริษัทและพันธมิตรในกลุ่มกิจการร่วมค้า ได้รับสัญญาในโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มูลค่าโครงการรวม 1,500 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวมีขนาดใหญ่และเป็นโครงการแรกที่แสดงถึงการต่อยอดประสบการณ์ของ ROCTEC ในด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งจากฮ่องดงสู่ตลาดประเทศไทย โดยโครงการดังกล่าวอาจเป็นแค่เฟสแรก ซึ่งบริษัทได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อนำเสนอบริการให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ บริษัทมีการจ่ายปันผลเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 67 ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ 4 ปี และปีนี้บริษัทมีความตั้งใจจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็นหนึ่งในวาระที่จะเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 (AGM) เดือนก.ค. 68 นี้
ในปีงบประมาณ 2568/69 บริษัทฯ คาดว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นใน การเพิ่มประสิทธิภาพและขยายศักยภาพของผลิตภัณฑ์และ บริการต่างๆ ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในงานวิจัยและ พัฒนาภายในองค์กร (in-house R&D) รวมถึงการสร้างความ ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นใน การส่งมอบการให้บริการที่มีความแตกต่าง การเพิ่มมูลค่า และ สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของ โครงสร้างพื้นฐานเขตเมืองและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอล
แม้ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะ จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น เช่น โอกาสในการ ปรับขึ้นภาษีทางการค้าสหรัฐฯ ภายใต้การดำเนินนโยบายของ ประธานาธิบดีทรัมป์ แต่อย่างไรก็ตามตลาดหลักที่สำคัญของ ROCTEC ทั้งในฮ่องกงและประเทศไทย คาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น นอกจากนี้การที่ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ยังช่วยสร้างระดับความมั่นคง เนื่องจากโครงการเหล่านี้มักมีความจำเป็นและยังคงต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว หน่วยงานทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชนอาจเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง อาจส่งผลต่อการอนุมัติโครงการใหม่ในระยะสั้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2567/68 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 68 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 3,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากปีก่อนหน้า จากการเติบโตของโครงการด้านไอซีทีที่มีอัตรากำไรสูง ทั้งในภาครัฐและเอกชน ซึ่งธุรกิจไอซีที ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท ขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาทรงตัว และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 68)
Tags: PLANB, ROCTEC, ร็อคเทค โกลบอล, เว่ย แซม แลม, แพลน บี มีเดีย