SKIN จ่อขายหุ้น IPO 44 ล้านหุ้น เข้าเทรดตลาด mai หลังก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บมจ.สกิน ลาบอราทอรี่ [SKIN] กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของ SKIN ในวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. – 9 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา บริษัทได้เดินหน้านำเสนอข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน แผนการดำเนินงานในอนาคต แก่นักลงทุนรายย่อยไปแล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี, นครสวรรค์, นครราชสีมา, ขอนแก่น, เชียงใหม่, สุราษฎร์ธานี, สงขลา อำเภอหาดใหญ่ และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร การนำเสนอข้อมูลที่ผ่านมามีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากแบรนด์ Skinsista และ Dermie ภายใต้การบริหารของบริษัทเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักลงทุน ธุรกิจของบริษัทมีศักยภาพในการแข่งขัน และมีโอกาสเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด” นายสมภพ กล่าว

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บมจ.สกิน ลาบอราทอรี่ [SKIN] กล่าวว่า ปัจจุบัน SKIN มีทุนจดทะเบียน 72 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 144 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 44 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 30.55% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์ แก่เจ้าหน้าที่นักวิเคราะห์ เจ้าหน้าที่การตลาด ณ ห้องค้าบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค ภายในปีนี้

นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง เสริมสร้างศักยภาพด้านการเงิน การขยายตลาดและฐานลูกค้าตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด

ปัจจุบัน SKIN ประกอบธุรกิจคิดค้น พัฒนา จ้างผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยคิดค้น และพัฒนาสูตรร่วมกับโรงงานผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ SKINSISTA (สกินซิสต้า) ซึ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภควัย 18-30 ที่มีปัญหาเรื่องผิว อาทิ ปัญหาสิว หรือ ริ้วรอย และนำมาจำหน่ายผ่านช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายทั้ง Offline ผ่านร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทาง Online ผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำ รวมถึงแบรนด์เวชสำอางน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว คือ Dermie (เดอร์มี่) ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

โดยปี 2567 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากลุ่มผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า, ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า, ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 57.28%, 38.30%, 1.94%, 0.95 และ 0.92 ตามลำดับ และมีรายได้รวม 230.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10.67 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ภายใต้ความตั้งใจที่ต้องการสร้างแบรนด์ที่เข้าใจลึกถึงหัวใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนที่ต้องต่อสู้กับปัญหาสิว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ตั้งแต่วันแรก นอกจากนี้ยังตั้งเป้าขยายช่องทางการจำหน่ายเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 68)

Tags: , , , , , ,
Back to Top