
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการสอบสวนบริษัทที่ต้องสงสัยว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย พร้อมสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) กำหนดโควตาการตรวจสอบบริษัทต่าง ๆ เพื่อเร่งผลักดันผู้อพยพออกนอกประเทศ
หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากทนายความด้านคนเข้าเมืองและอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิว่า ICE ได้สั่งการไปยังสำนักงานภูมิภาคทั้ง 30 แห่งทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเอกสารแสดงสถานะผู้อพยพของลูกจ้างจากนายจ้าง หรือที่เรียกว่า “I-9 audit” โดยจำนวนการแจ้งตรวจสอบเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่านับตั้งแต่เดือนม.ค.
การตรวจสอบเอกสารดังกล่าวมักเป็นขั้นตอนเบื้องต้นก่อนการบุกค้นสถานที่ทำงาน และเพิ่งถูกใช้โดยรัฐบาลทรัมป์เป็นหนึ่งในวิธีการจับกุมแรงงานผิดกฎหมายโดยไม่ต้องอาศัยหมายศาล ในหลายกรณี แรงงานผิดกฎหมายจะไม่กลับเข้าทำงานอีก หลังเจ้าหน้าที่ ICE ส่งหนังสือแจ้งตรวจสอบให้นายจ้าง
รายงานยังระบุว่า คำสั่งดังกล่าวนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวดครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมและภูมิภาคทั่วประเทศ พร้อมเสริมว่า ICE ยังเร่งเดินหน้าจับกุมแรงงานผิดกฎหมายให้ได้อย่างน้อยวันละ 3,000 ราย ตามนโยบายของสตีเฟน มิลเลอร์ รองหัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ICE บุกตรวจค้นโรงงานผลิตเสื้อผ้าสตรีในนครลอสแอนเจลิส พร้อมจับกุมแรงงานรับจ้างรายวันที่ลานจอดรถของ Home Depot เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการประท้วงขนาดใหญ่ จนทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระดมกำลังกองกำลังพิทักษ์ชาติและนาวิกโยธินสหรัฐเข้าควบคุมสถานการณ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 68)
Tags: นายจ้าง, สหรัฐ, แรงงาน, แรงงานต่างชาติ, โดนัลด์ ทรัมป์