
บริษัทนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) เปิดเผยในวันนี้ (24 มิ.ย.) ว่า บริษัทคาดการณ์ว่าจะขาดทุนสุทธิ 2 แสนล้านเยน (1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราที่สูง
ในระหว่างการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ในเมืองโยโกฮามา อีวาน เอสปิโนซา ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของนิสสัน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งแทนมาโกโตะ อุจิดะ เมื่อเดือนเม.ย. ได้กล่าวขอโทษผู้ถือหุ้นสำหรับผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ลงของบริษัท พร้อมกับย้ำถึงแผนการต่าง ๆ ที่รวมถึงการปิดโรงงาน 7 แห่ง และลดพนักงานจำนวนหลายพันคน
ในการประชุมดังกล่าวซึ่งอุจิดะได้เข้าร่วมด้วยนั้น บรรดาผู้ถือหุ้นได้ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของอุจิดะครั้งแล้วครั้งเล่า และแสดงความไม่พอใจที่บริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผล ซึ่งตรงข้ามกับการที่บริษัทจ่ายเงินจำนวนมากให้กับอดีตผู้บริหาร 4 คนที่ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงอุจิดะ อย่างไรก็ตาม อุจิดะปฏิเสธที่จะตอบคำถามของผู้ถือหุ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ที่ผ่านมานั้น นิสสันเผชิญกับยอดขายที่ซบเซาในสหรัฐฯ และจีน โดยบริษัทขาดทุนสุทธิ 6.7090 แสนล้านเยนในปีงบการเงิน 2567 ที่สิ้นสุดเมื่อปลายเดือนมี.ค.
นิสสันได้ประกาศแผนการปิดโรงงานผลิตรถยนต์ 7 แห่ง และลดพนักงาน 20,000 ตำแหน่งทั่วโลก นอกจากนี้ มีรายงานว่าบริษัทกำลังวางแผนที่จะขายอาคารสำนักงานใหญ่ในเมืองโยโกฮามาเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)