ทรัมป์บี้พาวเวลลดดอกเบี้ยลงเหลือ 1% ขณะรัฐบาลเริ่มกระบวนการสรรหาประธานเฟดคนใหม่

เมื่อวันจันทร์ (30 มิ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเดินหน้ากดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยได้ส่งรายการอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกให้กับเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด พร้อมเขียนข้อความด้วยลายมือตนเองกำกับไว้ว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ควรจะอยู่ระหว่าง 0.5% ของญี่ปุ่น และ 1.75% ของเดนมาร์ก และบอกพาวเวลว่าเขา “ช้าไปอีกตามเคย”

“คุณควรจะลดดอกเบี้ยลงไปอีกมาก ความเสียหายหลายแสนล้านดอลลาร์กำลังเกิดขึ้น” ทรัมป์ระบุในข้อความดังกล่าว ซึ่งถูกนำไปโพสต์บนโซเชียลมีเดียพร้อมความเห็นเพิ่มเติมจากทรัมป์ว่า การเป็นผู้บริหารธนาคารกลางในสหรัฐฯ เป็น “หนึ่งในงานที่ง่ายที่สุด แต่ทรงเกียรติที่สุดในอเมริกา และพวกเขาก็ล้มเหลว… เราควรจะจ่ายดอกเบี้ยแค่ 1% หรือต่ำกว่านั้นด้วยซ้ำ!”

ปัจจุบัน อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำ แต่อัตราเงินเฟ้อกลับสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ทำให้เจ้าหน้าที่ของเฟดยังคงลังเลที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระหว่าง 4.25% ถึง 4.5% จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าแผนการขึ้นภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์จะไม่ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของเฟดหลายคนยังคงแสดงความกังวลในประเด็นดังกล่าวในวันจันทร์ ส่วนสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้เริ่มวางแผนถึงกระบวนการเสนอชื่อบุคคลที่จะมาแทนพาวเวล เมื่อเขาจะพ้นจากตำแหน่งในเดือนพ.ค.ปีหน้า

ตามกฎหมายแล้ว ปธน.ทรัมป์ไม่สามารถปลดพาวเวลออกจากตำแหน่งเพียงเพราะความขัดแย้งด้านนโยบายได้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ก็ได้เรียกร้องให้พาวเวลลาออกเอง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เบสเซนต์ได้กล่าวถึงแนวทางการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานเฟดตามธรรมเนียมปฏิบัติ แทนที่จะใช้วิธีการแต่งตั้งบุคคลอื่นล่วงหน้าเพื่อกดดันนโยบายการเงิน

“จะมีตำแหน่งในคณะกรรมการ (ของเฟด) ว่างลงในเดือนม.ค. เราจึงพิจารณาแนวคิดว่าบุคคลดังกล่าวอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานเฟดต่อจากพาวเวลในเดือนพ.ค.” เบสเซนต์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก โดยหมายถึงตำแหน่งของเอเดรียนา คูเกลอร์ กรรมการเฟดคนปัจจุบันที่จะหมดวาระลงในเดือนม.ค. ซึ่งเบสเซนต์เคยกล่าวไว้เมื่อวันศุกร์ (27 มิ.ย.) ว่า หากมีตำแหน่งว่างในเดือนม.ค. ก็ “น่าจะหมายถึงการเสนอชื่อในเดือนต.ค.หรือพ.ย.” เพื่อให้วุฒิสภาลงมติรับรองต่อไป

สำหรับบุคคลที่อยู่ในข่ายพิจารณาให้เป็นประธานเฟดคนใหม่นั้น มีทั้ง คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นกรรมการเฟดอยู่แล้วและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายการเงินในปัจจุบัน และบุคคลภายนอกอย่าง เควิน วอร์ช อดีตกรรมการเฟด ซึ่งจะต้องรอจนกว่าจะมีตำแหน่งว่างและผ่านการรับรองจากวุฒิสภาก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 68)