
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บมจ. มากุโระ กรุ๊ป [MAGURO] เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจจะผันผวน แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการภายในและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้แรงหนุนจากมาตรการภาษีสหรัฐที่ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบถูกลง นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาร้านอาหารในเครืออย่างต่อเนื่องอีก 7 สาขาในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 พร้อมเตรียมเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นนำเข้าแบรนด์ใหม่อีก 1 สาขาในเดือนหน้า หนุนให้ทิศทางรายได้รวมปี 2568 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 30%
สำหรับภาพรวมครึ่งแรกของปี 2568 ธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ติดลบ โดยเฉพาะสาขาในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้จ่ายน้อยลงและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง อย่างไรก็ตาม สาขานอกเมืองของ MAGURO กลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และบางสาขามี SSSG เป็นบวก เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคนอกเมืองยังมีกำลังซื้อที่ดี นอกจากนี้ การที่ MAGURO มีการกระจายพอร์ตสาขาทั้งในและนอกเมือง รวมถึงไม่ได้พึ่งพิงลูกค้าต่างชาติมากนัก ทำให้ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงมีจำกัด ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย
ทิศทางครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากในไตรมาส 2/68 มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ผู้บริโภคชะลอการทานร้านอาหารนอกบ้านช่วงหนึ่ง ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 จะออกมาใกล้เคียงกับไตรมาส 1/68 ซึ่งหากไตรมาส 3/68 ไม่มีเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายก็คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) รวมทั้งในไตรมาส 4/68 ที่เป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกที่คาดว่าสถานการณ์สงครามการค้าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลัง
ล่าสุด MAGURO เปิดตัวแบรนด์ BINCHO ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมสาขาแรกในวันที่ 9 ก.ค.68 ณ ศูนย์การค้า เมกาบางนา และเตรียมเปิดสาขาที่ 2 ภายในต้นปี 69 โดยบริษัทมีแผนขยายสาขาร้าน BINCHO ให้ได้ 10-20 สาขาภายใน 3 ปี (ปี 68-70)
การเปิดแบรนด์ BINCHO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับ MAGURO Group ซึ่งจะช่วยเสริมให้ Ecosystem กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นสมบูรณ์แบบมากขึ้น ครอบคลุมหลากหลายเซ็กเม้นท์ คือ MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิ, HITORI Shabu และ HITORI Sukiyaki, AOKI Tonkatsu และ BINCHO
นายจักรกฤติ กล่าวอีกว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ร้านอาหารได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้มีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของร้านต่าง ๆ ซึ่งมองว่าการโปรโมชั่น ราคา Discount ไม่ใช่เรื่องผิด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจกระทบกำลังซื้อผู้บริโภค รวมทั้งกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติลดน้อยลง ซึ่งร้านอาหารในเครือ MAGURO ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ด้านราคา แต่ใช้การทำแคมเปญ Best Deal เช่นแคมเปญ 10 ปี 10 โปรโมชัน กับร้าน MAGURO ที่นำวัตถุดิบราคาสูงมาจัดโปรโมชั่น เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงความพรีเมียมได้ในราคาย่อมเยา โดยจะทำแคมเปญลักษณะดังกล่าวกับร้านอาหารอื่น ๆ ในเครือ MAGURO ด้วยเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)