หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัว กังวลเฟดชะลอหั่นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อสูง-ภาษีอินโดฯต่ำกว่าไทย

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งออกข้าง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมากแล้ว โดยถูกกดดันจากเมื่อคืนนี้สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มิ.ย.ที่ดีดตัวขึ้นจากเดือนพ.ค. เล็กน้อย ไม่ได้มากกว่าคาด แต่เริ่มเห็นสัญญาณว่าต้นทุนภาษีเริ่มเข้ามาที่สินค้าบางอย่าง อาจทำให้ตลาดกลับมาจับตาตัวเลขเงินเฟ้อถัดไปในระยะสั้นมากขึ้น เช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ต้องกลับมาติดตามตัวเลขเงินเฟ้อระยะถัดไปเพิ่มเติม ทำให้ระยะสั้นโอกาสความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ลดลงจากเดิมให้น้ำหนักมาก แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50% ประเด็นดังกล่าวกระทบสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น

ขณะที่ความคืบหน้าการเจรจาการค้า ล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับอินโดนีเซียแล้ว โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากอินโดนีเซียในอัตรา 19% ลดลงจากก่อนหน้านี้ถูกเรียกเก็บสูงถึง 32% อาจเป็นเชิงลบกับไทยเล็กน้อย เพราะคู่แข่งทางการค้าของไทยอย่างเวียดนาม ถูกเรียกเก็บในอัตรา 20% และไทยยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า ต้องติดตามช่วงถัดไป เพราะทั้ง 2 ประเทศมีข้อตกลงให้สินค้าสหรัฐทุกชนิดจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอินโดนีเซียและเวียดนาม แต่ข้อเสนอของไทยจะไม่เก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐบางรายการ ทำให้โอกาสที่จะเจรจาปรับลดภาษีลงมาต่ำกว่านี้อาจยากเล็กน้อย เป็นปัจจัยที่นักลงทุนยังกังวล

โดยให้กรอบแนวรับ 1,140 จุด และแนวต้าน 1,180 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,023.29 จุด ลดลง 436.36 จุด หรือ -0.98%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,243.76 จุด ลดลง 24.80 จุด หรือ -0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,677.80 จุด เพิ่มขึ้น 37.47 จุด หรือ +0.18%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,734.74 จุด เพิ่มขึ้น 56.72 จุด

หรือ +0.14% แต่หลังจากตลาดเปิดทำการได้ 15 นาที ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลง 131.14 จุด หรือ -0.33% มาอยู่ที่ระดับ
39,546.88 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,502.90 จุด ลดลง 2.10 จุด หรือ -0.06% และดัชนีฮั่งเส็ง
ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 24,704.05 จุด เพิ่มขึ้น 113.93 จุด หรือ +0.46%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.ค.) 1,161.01 จุด เพิ่มขึ้น 17.70 จุด (+1.55%) มูลค่าซื้อขาย 48,024.99 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (15 ก.ค.) ขายสุทธิ 595.25 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (15 ก.ค.) ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 66.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.ค.) อยู่ที่ 3.83 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.51/52 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค รับดอลลาร์แข็งค่าหลังคาดการณ์เฟดชะลอหั่นดอกเบี้ย

– ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน หรือไฟแนนเชียล ฮับ ตามที่สำนักงานคณะ

กรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้วเสร็จ และขั้นตอนหลังจากนี้จะเสนอบรรจุวาระและเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 ทันที โดยพ.ร.บ. ฉบับนี้จะทำประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค และปฏิรูปการพิจารณาใบอนุญาตและการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ ให้มีความครบวงจร ดึงดูดการลงทุน

– พาณิชย์เข้าหารือ “พิชัย” เตรียม 3 ข้อมูลหลักให้ทีมไทยแลนด์เจรจาอีกครั้ง เร่งหามาตรการตรวจสอบใช้ local content ป้องกันสวมสิทธิ์ เผย 10-15 กลุ่มอุตสาหกรรมเสี่ยงใช้ local content ในประเทศน้อยกว่านำเข้า ลั่นไม่ได้ผลักจีนออกจากห่วงโซ่การผลิตไทย

– ก.ล.ต. ผนึก ธปท. เตรียมเปิดแซนด์บ็อกซ์ เอื้อนักท่องเที่ยวต่างชาตินำ “สินทรัพย์ดิจิทัล” มาแลกเปลี่ยนเป็น “เงินบาท” นำไปใช้จ่าย หวังปลุกภาคท่องเที่ยวคึกคัก พร้อมเปิดรับฟังความเห็นถึง 13 ส.ค.นี้ หากเห็นชอบคาดเปิดให้บริการไม่เกิน 18 เดือน

– “พาณิชย์” เผยดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาส 2/68 ขยับเพิ่ม 0.2% จากอานิสงส์ปริมาณขนส่งสินค้าพุ่ง หลังความต้องการขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ มองแนวโน้มไตรมาส 3/68 ยังพุ่งต่อ ตามแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการรัฐ

– “พิชัย” ปัดถอนชื่อ ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ ออกจากการพิจารณาของ ครม. แค่เสนอไม่ทัน ยันสัปดาห์หน้าเข้าแน่ ไม่มี

ปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เผย “วิทัย” ยังเป็นตัวเต็ง แค่ต้องมีเอกสารรับรองของหน่วยงานสำคัญประกอบการพิจารณา เหตุเป็นตำแหน่งสำคัญ ป้องกันปัญหามาตรฐานทางจริยธรรม

 

หุ้นเด่นวันนี้

– TISCO (เมย์แบงก์) ราคาเป้าหมาย 105 บาท การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ CFO ชี้แจงว่าธนาคารได้ชะลอการ

เติบโตของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และหันไปเน้นสินเชื่อภาคองค์กรและเช่าซื้อ (HP) เพื่อควบคุม credit cost ให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 100bps ในปี 68 TISCO คาดว่าค่าไฟฟ้าที่จะปรับเปลี่ยนในอนาคตจะสร้างความไม่แน่นอน และเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอในครึ่งหลังของปี 68 แต่คาดว่า NIM มีแนวโน้มดีขึ้นจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง TISCO มองผลกระทบจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อยู่ในระดับเล็กน้อย และยังเป็นหุ้นที่อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าพอใจและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูง

– TRUE (กสิกรไทย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 13.16 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อ TRUE หลังจาก กสทช. ได้รับรองผลการ

ประมูลคลื่นความถี่รวม 4 ย่าน ได้แก่ 850MHz, 1500MHz, 2100MHz และ 2300MHz หลังผลการประมูลในภาพรวมเป็นบวก การแข่งขันไม่ได้รุนแรงเท่าที่คาดไว้ โดยที่ TRUE ชนะประมูลคลื่น 2300MHz ราคาต่ำกว่าที่เราคาดไว้ถึง 37% อีกทั้งมีการประมูล 1500MHz เหนือความคาดหมาย หนุนให้ TRUE ได้คลื่นเพิ่มมากถึง 90MHz ทำให้ถือคลื่น mid-band รวมสูงถึง 280MHz จะส่งผลบวกกับคุณภาพการให้บริการ และความสามารถในการแข่งขันในช่วงหลายปีข้างหน้า จนกว่าคลื่น 3500MHz จะเปิดให้ใช้งานในช่วงปี 2029 หรือ 2030

– CENTEL (ลิเบอเรเตอร์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 35 บาท คาดปีนี้แนวโน้มกำไรฟื้นตัว จากการกลับมาเปิดโรงแรมที่

พัทยาและภูเก็ต หลังรีโนเวทไปในช่วงที่ผ่านมา ผสานกับคาดรายได้โรงแรมที่ญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเด่นในช่วง 2Q25 กระแสตอบรับมาตรการเที่ยวไทยคนละครึ่งดี คาดกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในช่วง 3Q25 ฟื้นตัว ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง EV/EBITDA 9.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 12 เท่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 68)