SCGP บวก 1.17% โบรกปรับเพิ่มเป้าอิงแนวโน้มกำไร H2/68 ดีขึ้น-Fajar พลิกฟื้น

SCGP บวก 1.75% หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท มาที่ 17.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 98.89 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.07 น. จากราคาเปิด 17.40 บาท ราคาสูงสุด 17.50 บาท และราคาต่ำสุด 17.10 บาท

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุ แนวโน้มผลการดำเนินงานของ บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง [SCGP] ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 68 มีทิศทางการฟื้นตัวขึ้น จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษของจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจาก GDP ของจีนในไตรมาส 2/68 โตสูงกว่าคาดที่ 5.2% การส่งออกเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 และแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมี upside ต่อการบริโภคและภาคอสังหาริมทรัพย์ และทำให้ Downside เริ่มจำกัด ขณะที่ปัจจัยลบในไทยเกี่ยวกับการบริโภคชะลอตัวก็รับรู้ไปมากแล้ว

ขณะที่ผลงานของ Fajar ดีขึ้น ซึ่งถูกกลบบางส่วนจาก Fibrous unit (FB) ที่ชะลอตัว ส่วนกำไรลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นเพราะผลการดำเนินงานไม่ดีและรับรู้ผลขาดทุนเต็มปีของ Fajar อย่างไรก็ตาม บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นใหม่ที่ 19.50 บาท จากเดิม 16.00 บาท และมีแนวโน้มที่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ SCGP เพิ่มขั้น

บล.ทรีนีตี้ คาดว่าผลงานไตรมาส 2/68 ของ SCGP ยังฟื้นตัวต่อ และแนวโน้ม H2/68 คาดยังทรงตัว แต่จะโดดเด่นใน ไตรมาส 4/68 จึงปรับคำแนะนำเป็น Trading Buy และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19.55 บาท อิงค่าเฉลี่ย PER +0.5SD ที่ 25 เท่า สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการ และความคาดหวังเชิงบวกหาก Trade Deal ระหว่างประเทศมีความคืบหน้า โดยราคาหุ้นปรับขึ้นแล้วกว่า 31% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

คาดว่า SCGP จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 965 ล้านบาท ลดลง 33% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ จากแรงหนุนของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้ากล่องและอาหารแปรรูปที่ได้อานิสงส์จาก 90-day front loading ขณะที่ Food Service Packaging ยังเติบโตได้ดีในต่างประเทศ แม้ยอดขายในประเทศอ่อนตัวจากนักท่องเที่ยวลดลง ส่วนราคาขายโดยรวมยังเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขัน โดยเฉพาะจากสินค้าจีน

คงประมาณการกำไรปี 68 ที่ 3.3 พันล้านบาท โดยกำไรครึ่งปีแรกคาดว่าจะอยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท หรือ 55% ของประมาณการทั้งปี มีโอกาสเกิด Upside Risk จากประมาณการ หากครึ่งปีหลังสามารถรักษาระดับผลประกอบการได้ตามแผน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 68)