พรรคส้ม ฉะ! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ท่าดีทีเหลว คนใช้น้อย เปิดช่องให้ทุจริตได้ง่าย

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของว่าที่ ร.ต.สมชาติ เตชถาวรเจริญ สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ถามนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เรื่อง “โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง” ว่า เนื่องจากสภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีนี้ ซบเซาลงกว่าปีที่แล้ว เพราะนักท่องเที่ยวจีนไม่มั่นใจในความสามารถของรัฐบาลที้บังคับใช้กฎหมายการค้ามนุษย์ จนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นตลาดหลักของไทยลดลงเหลือไม่ถึงครึ่ง ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จึงได้จัดสรรงบประมาณจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท มาดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง จำนวน 1,750 ล้านบาท

แต่จนถึงวันนี้ มีประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ห้องพักไปแล้ว 1.58 แสนสิทธิ์ หรือเฉลี่ยไม่ถึง 1 หมื่นสิทธิ์ต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากทั้งผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบการต่างประสบปัญหาตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้เริ่มลงทะเบียนใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการลงทะเบียนที่มีขั้นตอนยุ่งยาก ขณะที่การแก้ไขปัญหาระบบล่มมีความล่าช้า ทำให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการต้องเสียโอกาส นอกจากนี้ การตั้งราคาห้องพักไว้สูง ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า

“รัฐบาลทำงานไม่เป็น ขาดความรู้ความสามารถ มีการออกแบบแอปพลิเคชั่นใหม่ ทั้งที่โครงการนี้ คล้ายกับโครงการเที่ยวคนละครึ่ง แต่หลังจากที่เปิดตัวแอปพลิเคชั่นออกมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบการต่างประสบปัญหา” ร.ต.สมชาติ กล่าว

พร้อมตั้งคำถามถึงนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ว่าเหตุใดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จึงไม่ใช้แอปพลิเคชั่นเดิมของธนาคารกรุงไทยที่ประชาชนส่วนใหญ่ติดตั้งไว้แล้วในโทรศัพท์มือถือ เช่น “เป๋าตัง” “ถุงเงิน” เพื่อทำโครงการนี้ต่อ เพราะประชาชนต่างคุ้นเคยกับการใช้งานแอปฯ เหล่านี้ดีอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังตั้งคำถามกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานในกำกับดูแล ว่ามีการสร้างแอปฯ ไปทั้งหมดเท่าไร ใช้งบประมาณไปเท่าไร และมีการใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ จำนวนผู้ใช้งานมากเพียงใด และใครเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายจากการใช้งานแอปฯ ไปในทางที่ทุจริต หรือการใช้งานแอปฯ มีความผิดพลาด รวมทั้งจะมีการขยายขีดความสามารถของแอปฯ ThaiD เพื่อให้มีขีดความสามารถเพียงพอรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากได้เมื่อใด เป็นต้น

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวชี้แจงกรณีนักท่องเที่ยวจีนลดลงว่า เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกันหลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่ที่ประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวจีนลดลลง ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลจะรับไปดำเนินการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้เร็วที่สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศไทย

สำหรับงบประมาณที่ขอจัดทำแอปพลิเคชันนี้ อยู่ในงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท และเราได้คืนเงินในส่วนการทำแอปพลิเคชัน 10 ล้านบาทที่ขอไป เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับ ไม่ทันการต่อการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหา อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า งบประมาณในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงงบประมาณของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไม่ได้ถูกใช้ไปมากในการทำแอปพลิเคชัน

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีทางที่ตนจะปฏิเสธความรับผิดชอบ ย้ำว่าในฐานะที่เป็น รมว.ท่องเที่ยวฯ ต้องขออภัยประชาชนอีกครั้งในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น แต่จะแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ประชาชนได้รับความลำบากน้อยที่สุด

“ต้องขอกราบอภัยพี่น้องประชาชนอีกครั้งในความไม่สะดวก ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นขั้นตอนของการทำงาน และเราก็พยายามจะอุดรูรั่วนั้นแล้ว ส่วนในอนาคตจะมีเฟสสอง เฟสสามหรือไม่ ต้องขอดูอีกครั้ง เนื่องจากโครงการนี้ แต่เดิมทีมีการออกนโยบาย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสถานการณ์โควิด-19 และขอใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า โครงการนี้ยังสามารถจองสิทธิ์เข้ามาเพิ่มได้” นายสรวงศ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 68)