
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันไปจนถึงหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าในงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) ว่า สิ่งที่นายทักษิณพูด ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอยากจะจับมือกันอยู่แล้ว ซึ่งปกติหลังการเลือกตั้ง พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ก็คิดที่จะจับมือกันกับรัฐบาลเดิมเป็นอันดับแรก หัวหน้าพรรคทุกพรรคก็คิดเช่นนั้น
ส่วนการพูดแบบนี้ เป็นการตัดพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากสมการจัดตั้งรัฐบาล และไม่สามารถจับมือกันในอนาคตหรือไม่นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ปกติภายหลังการเลือกตั้ง จะต้องดูผลคะแนนแพ้-ชนะว่าเป็นอย่างไร หากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจับมือกันแล้วได้เสียงเกินครึ่งไปเยอะ ก็ไม่จำเป็นต้องหาเสียงจากพรรคฝ่ายค้านเดิมมาร่วม แต่หากไม่เพียงพอ ก็ต้องไปพูดจากัน
“การที่มีเสียงปริ่มน้ำ จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรครู้ดีถึงสถานการณ์เสียงปริ่มน้ำ และจะทำให้ทุกคนเกิดความสามัคคีกันมากขึ้น ขณะเดียวกัน ถ้าเสียงเกินไปพอประมาณ ก็อาจทำให้มีการประมาท และจะทำให้เป็นปัญหามากกว่าเสียงปริ่มน้ำ” นายสุริยะ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ มาพูดในงานของพรรคร่วมรัฐบาล อาจทำให้มีผู้ไปร้องว่าเป็นการครอบงำได้ นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ส่วนตัวที่ฟังก็ไม่เห็นมีตรงไหนที่เป็นการครอบงำรัฐบาล เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลจะตัดสินใจ นายทักษิณ คงไม่สามารถบังคับพรรคร่วม หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยเองได้
“คงจะไปบังคับพรรคร่วม หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยเองไม่ได้ เพราะทุกพรรค ต่างก็มีกรรมการบริหารพรรคดำเนินการอยู่ แต่การที่ท่านมาพูด เพราะเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ จึงมาแชร์ให้พรรคร่วมทราบ” นายสุริยะ กล่าว
เมื่อถามย้ำถึงประโยคที่นายทักษิณ ประกาศว่าได้ลูกมาเป็นนายกรัฐมนตรี และได้พ่อมาช่วยด้วย อาจทำให้แยกเรื่องการครอบงำออกไม่ได้นั้น นายสุริยะ มองว่า ความเป็นพ่อลูก มาพูดคุยกัน มาแชร์ประสบการณ์กัน เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีเรื่องการครอบงำแต่อย่างใด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)

