ทริส มอง EA ยืดหนี้หุ้นกู้สำเร็จช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องแต่สถานะความเสี่ยงยังถูกกดดัน

ทริสเรทติ้งเปิดเผยว่า การขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้หลายชุดของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ [EA] จะยังไม่มีผลกระทบโดยทันทีต่อการประเมินสถานะเครดิตของบริษัท แต่มองว่า EA มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการบรรเทาแรงกดดันด้านสภาพคล่องในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม สถานะความเสี่ยงทางการเงินของบริษัทยังคงถูกกดดัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการรีไฟแนนซ์กับธนาคารและการฟื้นตัวของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอและลดภาระหนี้

หลังจากจัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้หลายครั้ง EA สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นกู้ในการขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ 11 ชุด จากทั้งหมด 14 ชุด ออกไปอีก 5 ปี หุ้นกู้ที่ขยายระยะเวลาดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1.87 หมื่นล้านบาท จากหุ้นกู้คงค้างทั้งหมด 2.57 หมื่นล้านบาท เงื่อนไขใหม่ของหุ้นกู้ยังรวมถึงการทยอยชำระคืนเงินต้นบางส่วน, การเพิ่มสิทธิให้ผู้ออกหุ้นกู้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด (Call Option) และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% จากเงื่อนไขเดิม ทริสเรทติ้งมองว่าการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์ระยะสั้นของบริษัทและเพิ่มสภาพคล่องได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าการขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เป็นเพียงการแก้ปัญหาบางส่วนต่อความท้าทายด้านสภาพคล่องทั้งหมดของบริษัท เพื่อคลี่คลายข้อจำกัดด้านสภาพคล่องอย่างครอบคลุม EA ยังคงจำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ที่เหลืออีก 3 ชุด นอกจากนี้ บริษัทยังต้องจัดการกับภาระหนี้กับธนาคาร ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของภาระหนี้ทั้งหมดในปัจจุบัน

ทริสเรทติ้งเห็นว่าการได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอจากธนาคารเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิมภายใต้เงื่อนไขการชำระหนี้ที่ยืดหยุ่นถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากผลลัพธ์ของการขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ผ่านมาแตกต่างจากแผนเดิม โครงสร้างการชำระคืนสุดท้ายจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดสถานะสภาพคล่องของบริษัทและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอิสระเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ที่เหลือได้ภายในเดือนกันยายน 2568

ทริสเรทติ้งประเมินว่าสถานะความเสี่ยงทางการเงินของบริษัทยังคงถูกกดดันในช่วงระยะปานกลาง เนื่องจากกระแสเงินสดที่ลดลงและภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงยังคงกดดันความแข็งแกร่งด้านเครดิตของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทได้ยกเลิกแผนการขายโรงไฟฟ้าเพื่อลดภาระหนี้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของทริสเรทติ้ง ดังนั้น การฟื้นตัวด้านเครดิตของบริษัทในขณะนี้จึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและลูกค้า ตลอดจนการสร้างกระแสเงินสดเพิ่มเติมจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่เพียงพอ เพื่อรองรับภาระหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าได้

ทริสเรทติ้งจะยังคงติดตามความคืบหน้าของบริษัทอย่างใกล้ชิดในการรีไฟแนนซ์กับธนาคาร, การเจรจากับผู้ถือหุ้นกู้ที่เหลือ และการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท ปัจจัยเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินความยั่งยืนของโครงสร้างเงินทุนและสถานะด้านเครดิตโดยรวมของบริษัท สำหรับขณะนี้ ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ “BB+” และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ “BB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)