ทริส คงเครดิต ASW ที่ ‘BBB-’ แนวโน้ม ‘Positive’ ชี้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งหนุนรายได้ทะลุหมื่นล้าน

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.แอสเซทไวส์ [ASW] ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” การคงอันดับเครดิตและแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนถึงการขยายตัวของขนาดธุรกิจของบริษัท รวมถึงการที่แบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต

นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) จำนวนมาก จากมูลค่ายอดขายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้ของ ASW จะเกินกว่าระดับ 1 หมื่นล้านบาทต่อปีตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ภาระหนี้ของบริษัทยังคาดว่าจะค่อย ๆ ปรับตัวลดลง โดยคาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ที่ระดับสูงเกินกว่า 10% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานรายได้และกำไรของบริษัทที่เติบโตขึ้น รวมถึงการขยายพอร์ตสินค้าและทำเลที่ตั้งโครงการ ควบคู่ไปกับอัตราการทำกำไรที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากระดับหนี้สินทางการเงินที่แม้จะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง รวมถึงลักษณะวัฏจักรของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์, อัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารที่เพิ่มขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้ครัวเรือน และภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัว

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต:

ฐานรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง: รายได้และกำไรของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า แม้จะเผชิญความท้าทายในตลาดที่อยู่อาศัย ASW แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดยมียอดขายรวมยอดขายจากโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท จากระดับ 1.1 หมื่นล้านบาทในปี 2565-2566 ในไตรมาสแรกของปี 2568 ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 3.4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนหลักจากความสำเร็จในการเปิดโครงการใหม่ในจังหวัดภูเก็ต รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 9.9 พันล้านบาทในปี 2567 เพิ่มขึ้น 44% จากปี 2566

Backlog จำนวนมากหนุนการเติบโต: ณ เดือนมีนาคม 2568 บริษัทมี Backlog มูลค่า 3.06 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมยอดขายจากโครงการร่วมทุน 7.1 พันล้านบาท คาดว่า Backlog ดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ประมาณ 8.6 พันล้านบาทในช่วงที่เหลือของปี 2568, 7.8 พันล้านบาทในปี 2569 และ 6.8 พันล้านบาทในปี 2570

พอร์ตลงทุนอสังหาริมทรัพย์หลากหลายขึ้น: ASW มีพอร์ตลงทุนที่อยู่อาศัยที่หลากหลายทั้งประเภทสินค้าและทำเลที่ตั้ง โดย ณ เดือนมีนาคม 2568 โครงการกระจายอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 62%, จังหวัดภูเก็ต 31% และภาคตะวันออก 8% บริษัทได้ขยายการลงทุนสู่ตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตภายใต้แบรนด์ “The Title” ผ่านบริษัทย่อย บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นแหล่งรายได้และกำไรหลักในอนาคต

ภาระหนี้มีแนวโน้มดีขึ้น: ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุน (รวมภาระหนี้ตามสัดส่วนในกิจการร่วมค้า) ของบริษัทจะปรับลดลงและอยู่ในระดับต่ำกว่า 60% ตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า ณ เดือนมีนาคม 2568 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 60.3% ลดลงจาก 63% ในปี 2566 บริษัทได้รับประโยชน์จากเงื่อนไขการชำระเงินของลูกค้าตามสัญญาของโครงการคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ซึ่งสามารถเรียกเก็บเงินได้ประมาณ 75% ของราคาขายในช่วงระหว่างก่อสร้าง และอีก 25% ที่เหลือในช่วงโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งช่วยลดความต้องการเงินกู้ยืมระหว่างการพัฒนาโครงการได้เป็นอย่างดี

แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงเติบโตได้ตามแผน โดยจะรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินควรจะอยู่ที่ระดับเกินกว่า 10% ตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนคาดว่าจะลดลงมาอยู่ต่ำกว่า 60% ในช่วงประมาณการ

อันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้น หากบริษัทสามารถเพิ่มฐานรายได้และกระแสเงินสดได้ตามประมาณการ พร้อมรักษาอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินให้อยู่ที่ระดับสูงเกินกว่า 10% และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนลดลงมาอยู่ต่ำกว่า 60% ได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลง หากผลการดำเนินงานของบริษัทต่ำกว่าประมาณการ และภาระหนี้ของบริษัทไม่สามารถปรับลดลงได้ตามเป้าหมาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)