
ผู้บริหารระดับสูงของพรรคแกนนำรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดในวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า การลาออกของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายหลังพรรคร่วมรัฐบาลประสบความปราชัยครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา
แหล่งข่าวซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารพรรคกล่าวเสริมว่า นายกฯ อิชิบะ ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล คาดว่าจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งหรือไม่ในเดือนส.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสกดดันที่เพิ่มขึ้นจากสมาชิกพรรคให้เขาแสดงความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.)
ในวันนี้ นายกฯ อิชิบะได้เข้าพบกับอดีตนายกฯ ทาโร อาโซ, โยชิฮิเดะ ซูงะ และฟูมิโอะ คิชิดะ ที่สำนักงานใหญ่ของพรรค LDP ซึ่งนับเป็นการพบปะหารือที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักระหว่างนายกฯ คนปัจจุบันกับเหล่าอดีตผู้นำ
นายกฯ อิชิบะได้กล่าวย้ำกับผู้สื่อข่าวหลังการหารือ โดยยืนยันความตั้งใจที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ และหัวหน้าพรรค LDP ต่อไป พร้อมระบุว่า ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องการลาออกขึ้นมาพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย
“เราต่างมีความรู้สึกร่วมกันถึงวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่นี้” นายกฯ อิชิบะกล่าว และเสริมว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงความจำเป็นในการป้องกันไม่ให้พรรค LDP ต้อง “แตกสลาย”
ขณะเดียวกัน กลุ่มสส. รุ่นใหม่และระดับกลางของพรรค LDP ได้เริ่มล่ารายชื่อเพื่อเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมร่วมสมาชิกพรรค เพื่อกดดันให้นายกฯ อิชิบะแสดงความรับผิดชอบ หลังจากที่ความไม่พอใจต่อทีมผู้นำพรรคได้ทวีความรุนแรงขึ้นในหมู่สาขาพรรคตามภูมิภาคต่าง ๆ
ภายหลังการเลือกตั้ง นายกฯ อิชิบะกล่าวว่า เขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อรับมือกับสารพัดปัญหาท้าทายที่ประเทศกำลังเผชิญ ตั้งแต่ปัญหาเงินเฟ้อไปจนถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ
อนึ่ง รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งประกาศในวันนี้ว่าได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่น ๆ จากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ซึ่งต่ำกว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยระบุว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)