
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ได้เรียกประชุมด่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา โดยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ยอมรับว่า ขณะนี้มีเหตุปะทะขึ้นแล้ว ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเมื่อมาถึงขั้นนี้ ไม่มีการพูดคุยกันแล้ว
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวก่อนการประชุมศบ.ทก. วาระเร่งด่วนว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถึงขั้นนี้คงไม่ต้องคุยกันแล้ว
ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยพยายามจะพูดคุยแบบทวิภาคีตามกระบวนการที่เคยมีอยู่ และตนยื่นข้อเสนอไปว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องเคลื่อนย้ายกำลังพลออกจากบริเวณแนวชายแดน เพราะหากเผชิญหน้ากันอยู่อาจมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันได้ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาไม่มีวินัย ยั่วยุ ขณะที่ฝ่ายผู้บังคับบัญชาบอกว่า ยึดแนวทางสันติ
ดังนั้น จากเหตุการณ์ทหารเหยียบกับระเบิดบริเวณช่องอานม้า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) กองทัพภาคที่ 2 จึงตัดสินใจว่าจะมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดอำนวยการในการดูแลพื้นที่ต่อไป และแม่ทัพภาคที่ 2 ขออนุญาตวางลวดหนามในพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาล่วงล้ำเข้ามา และมีความประสงค์ร้ายกับฝ่ายไทย
“ได้รับรายงานเบื้องต้น เขาปฏิบัติการกันอยู่ 8.20 น. เมื่อเช้าฝ่ายไทยได้ไปวางลวดหนาม แล้วฝ่ายกัมพูชายิงกลับมา” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
ส่วนจะต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินหรือประกาศภาวะสงครามในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี เพราะกองทัพไทยยังดำเนินการตามกฎหมายได้อยู่แล้ว ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะหารือร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ
ส่วนจะถึงขั้นต้องใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” เนื่องจากแผนนี้เป็นแผนของกองทัพบกจะถูกใช้เมื่อสั่งการ ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันก่อน วันนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะหารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่อไปว่าจะใช้แผนดังกล่าวต่อไป
พล.อ.ณัฐพล ยังระบุว่า สิ่งที่อยากบอกประชาชนตามแนวชายแดนที่เกิดสถานการณ์ในช่วงนี้ คือขอให้มั่นใจว่ากองทัพไทย จะปกป้องอธิปไตยไม่ให้ใครมาล่วงล้ำดินแดนอธิปไตยของไทยเป็นอันขาด รวมถึงให้กำลังใจประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติครั้งนี้
“กองทัพไทยอดทนอดกลั้นมาถึงที่สุด ต่อไปจะไม่อดทนแล้ว เพราะเป็นการปฏิบัติของทหารกัมพูชาที่เรารับไม่ได้” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
ขณะเดียวกัน กองทัพบก ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน และประชาชน งดการบันทึกภาพนิ่ง คลิปวิดีโอ หรือการเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือยานพาหนะทางทหารขนาดใหญ่ รวมถึงการระบุสถานที่ หรือเส้นทางการเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านช่องทางสื่อสาธารณะหรือสื่อออนไลน์ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาจะทราบความเคลื่อนไหวฝ่ายไทยหมด
“อย่างที่เคยเปรียบเทียบให้ฟัง เหมือนแข่งกีฬาถ้าจะมาถามใช้กลยุทธ์อะไร เราก็คงไม่มีโอกาสชนะ และฝากสื่อทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย เข้าใจที่ประชาชนอยากทราบ เป็นห่วง หรืออยากทราบว่า ทำกันอย่างไร แต่บางเรื่องพอถึงขั้นปฏิบัติการพูดไม่ได้แล้ว แต่ที่ผ่านมาพูดมาก เพราะอยากให้สังคมเข้าใจและไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร เพราะเราใช้แนวทางสันติ แต่พอถึงขั้นนี้แล้ว ผมไม่ก้าวล่วงทางกองทัพไทย ปล่อยให้ดำเนินการ แต่ทางกลาโหมก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มขีดความสามารถ” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
โดยในช่วงบ่ายวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ย้ำว่าในการปฏิบัติได้มอบอำนาจให้กองทัพไทยไปแล้ว แต่กระบวนการที่จะตามมาเพื่อที่จะรองรับความชอบธรรมตามกฎหมายในทางปฏิบัติ
ส่วนจะมีการฟ้องไปยังองค์การต่างประเทศให้ได้รับทราบถึงการกระทำของฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมากัมพูชายอมรับผิดหรือไหนบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ย้ำว่าพยายามจะไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย แต่หากมีการรุกล้ำอธิปไตยก็ยอมไม่ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 68)