นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงอ่อนตัว หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชายกระดับความรุนแรง และอาจมีแรงขายออกมาก่อนเข้าช่วงหยุดยาว 3 วัน รวมทั้งความคืบหน้าเจรจาการค้ายังไม่ชัดต้องจับตาข้อสรุปไทย-สหรัฐต่อไป แนะติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 กลุ่ม real sector หุ้นใหญ่ อย่าง PTTEP และ DELTA หากออกมาต่ำกว่าคาดก็ต้องระวังแรงขายเป็นพิเศษ โดยให้กรอบแนวรับ 1,205-1,200 จุด แนวรับถัดไป 1,190 จุด แนวต้าน 1,230 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ถึงอ่อนตัวลง จากความกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยกระดับความรุนแรง และบ้านเรากำลังเข้าช่วงหยุดยาวอีกครั้งจึงอาจมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน รวมทั้ง ความคืบหน้าการเจรจาการค้า ซึ่งเป็นความหวังที่ทำให้หุ้นไทยปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ชัดเจน ขณะที่เส้นตายใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จึงต้องจับตาว่าไทยจะได้ข้อสรุปกับสหรัฐอย่างไร
ในส่วนของวันนี้ แนะนำให้ติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ในหุ้นกลุ่ม real sector โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ เช่น PTTEP และ DELTA ช่วงเย็นวันนี้ หากออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดก็ต้องระวังแรงขายเป็นพิเศษ
โดยให้กรอบแนวรับแรก 1,205-1,200 จุด *ประเด็นพิจารณาการลงทุน
*ประเด็นพิจารณาลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 ก.ค.) 44,693.91 จุด ลดลง 316.38 จุด หรือ -0.70%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,363.35 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด หรือ +0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,057.96 จุด เพิ่มขึ้น 37.94 จุด หรือ +0.18%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 41,760.58 จุด ลดลง 65.76 จุด หรือ -0.16%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,531.59 จุด ลดลง 135.59 จุด หรือ -0.53% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,604.45 จุด ลดลง 1.28 จุด หรือ -0.04%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.ค.) 1,212.49 จุด ลดลง 7.13 จุด (-0.58%) มูลค่าซื้อขายราว 46,887.92 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (24 ก.ค.) 1,596.27ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (24 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 66.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ค.) อยู่ที่ 3.63 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.28 ตลาดเกาะติดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา, ตัวเลขศก.สหรัฐ
– “พิชัย” ชี้ที่ประชุมบอร์ดกระตุ้น ศก.อนุมัติใช้งบฯ 4.2 หมื่นล้านรับมือภาษีทรัมป์ หลังงบ อปท.อาจจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน 30 ก.ย. และซ้ำซ้อนกับงบฯ 69 หวังใช้แหล่งงบอื่นเยียวยาท้องถิ่นแทน ด้าน “ปลัดคลัง” ฟุ้งทีมไทยแลนด์ลุยเจรจาสหรัฐเต็มที่ หวังได้อัตราภาษีนำเข้าใกล้เคียงภูมิภาค
– ส่งออก มิ.ย.มูลค่า 28,649 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.5% ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 12 หลังคู่ค้าเร่งนำเข้าหนีภาษีสหรัฐ จบครึ่งปีแรกขยายตัว 15% มูลค่า 166,851 ล้านดอลลาร์ เผยครึ่งปี นำเข้าจากจีนพุ่งแรง 31.8% คาด ก.ค.เริ่มชะลอตัว มั่นใจส่งออกทั้งปีได้ตามเป้า 2-3% ภาษีทรัมป์ ชี้ชะตาส่งออกไทยปีนี้
– ส.อ.ท.ปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกลดลง 5 หมื่นคัน ฉุดยอดผลิตทั้งปีเหลือ 1.45 ล้านคัน สอดคล้องยอดส่งออกงวด มิ.ย. ลดลง 1.11% โอดกำแพงภาษีสหรัฐกระทบเศรษฐกิจหนัก
– สภาธุรกิจไทย-กัมพูชาชี้ผู้ประกอบการไทยในกัมพูชากำลังประเมินสถานการณ์ ส.อ.ท.หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอยปลุกระดม แบงก์เกาะติดสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาใกล้ชิด ชี้สาขาในกรุงพนมเปญยังคงเปิดแต่เฝ้าระวังใกล้ชิด อินเด็กซ์ ยกเลิกจัดงาน คาราบาว-ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ สต็อกสินค้าตั้งแต่ปิดด่าน
– ไทยไม่ทนฟ้องโลกเขมรยิงมั่ว ละเมิดอนุสัญญาเจนีวาถล่มจรวดใส่บ้านผู้คน-โรงพยาบาล ชาวบ้านตาย เจ็บอื้อมีเด็ก 8 ขวบสังเวยด้วย ปะทะเดือด 4 จว.ชายแดน หลังเขมรเปิดฉากยิงทหารไทยที่กำลังขึงลวดหนามเขตปราสาทตาเมือนธม ทัพไทยเปิดปฏิบัติการ ‘ยุทธบดินทร์’ ตอบโต้หนักทั้งทางบก-อากาศ ส่ง ‘F-16’ ทิ้งบอมบ์ฐานเขมรกระจุย 2 จุด รถถังระดมยิงสนั่น ทำลายกระเช้าทหารกัมพูชาภูมะเขือ ‘ภูมิธรรม’ ถกด่วนสมช. ‘บัวแก้ว’ ลุยให้ข้อมูล UN ศธ.สั่งปิดร.ร.ชายแดนทันที
– GFPT (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 13.40 บาท มองเชิงบวกต่อตัวเลขการส่งออกของไก่สดและแช่แข็งในเดือน มิ.ย. เติบโตขึ้น 15.8% YoY หนุนโดยปริมาณการส่งออกเติบโตขึ้น แนวโน้มไตรมาส 2/68 แข็งแกร่ง 591 ลบ.เพิ่มขึ้น 1.4% YoY หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้น แต่ลดลง 7.4% QoQ จากกำไรส่วนแบ่งจากบริษัทร่วม (JV) ลดลง แต่ครึ่งหลังปี 68 คาราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% สำหรับตลาดยุโรป และต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหลักหนุนความสามารถการทำกำไรแข็งแกร่งในไตรมาส 3/68 และราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยช่วงต้นเดือนก.ค.68 อยู่ที่ 15.6 บาท/กก. ลดลง 6.1% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/68
– BDMS (พาย) ซื้อ ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท ไตรมาส 2/68 คาดกำไรสุทธิที่ 3.4 พันล้านบาท (+1% YoY, -22% QoQ) อ่อนตัวจากไตรมาสก่อนเนื่องจาก 1) ปัจจัยนอกฤดูกาลโรคระบาดท้องถิ่นยังไม่มาก 2) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติโดยเฉพาะจีนและกัมพูชาเดินทางมารักษาลดลง และ 3) คาดค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มขึ้นจากสิทธิประโยชน์ BOI ที่น้อยลง ไตรมาส 3/68 มองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ
– AMATA (กรุงศรี) ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท ยอด BOI ไทย H1/68 เด่นสูง 1.05 ล้านล้านบาท +138% YoY การลงทุนดิจิทัลเด่น +20 เท่า YoY และ 5.5 เท่า QoQ สะท้อนภาพ New S Curve ขณะที่ข้อสรุปการค้าสหรัฐฯ-ไทยใกล้เข้ามา อิงข้อเสนอประเทศต่าง ๆ กับไทย ประเมินโอกาสภาษีสหรัฐลดจาก 36% มาที่ราว 25% หากแปลงเป็น effective tariff Rate ยังอยู่ในระดับแข่งขันได้ บวกต่อหุ้นนิคมที่ Deep Value สะท้อนความกังวงล่วงหน้าไปมาแล้ว แนวรับถัดไป 1,190 จุด และแนวต้าน 1,230 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 68)
