
นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงกลางดึก ได้มีการประสานพูดคุยกับฝ่ายกองทัพ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น รมว.ต่างประเทศ รมช.กลาโหม และรมว.คลังเรียบร้อยแล้ว
โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า การพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นการสื่อสารเช่นเดียวกับที่เคยหารือกับประธานอาเซียน คือ ผู้นำมาเลเซีย และตัวแทนของจีน ซึ่งทั้ง 3 ชาติมีความเห็นตรงกันว่าอยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้น อยากเห็นการหยุดยิง เพราะเป็นห่วงพลเรือน ไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย
นายภูมิธรรม กล่าวย้ำกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ไทยยึดหลักสันติภาพ ยึดหลักการพูดคุยมาโดยตลอด แต่กัมพูชากลับยิงใส่พลเรือนไทย โดยไร้เป้าหมายทางการทหาร ส่วนไทยตอบโต้เฉพาะจุดทางการทหารเท่านั้น เพราะกัมพูชายังมีการยิงวิถีจรวดเข้ามาทำร้ายประชาชนไทยเสียชีวิตไปแล้ว 13 คนบาดเจ็บ ประมาณ 50 คน และอพยพพลเรือน 130,000 คน
รักษาการนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า หากทั้งสองประเทศยังไม่สามารถที่จะหยุดยิงได้ สหรัฐฯ ก็ยังไม่พร้อมที่จะเจรจาทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งไทยก็เข้าใจ และไทยพร้อมหยุดยิง แต่มีเงื่อนไขว่ากัมพูชาจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับคนไทย เพราะรัฐบาลยึดหลักต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก
นายภูมิธรรม ย้ำอีกเงื่อนไขว่า ไทยขอบคุณสหรัฐฯ และนานาประเทศที่มีความห่วงใย แต่สถานการณ์ขณะนี้ ไทยไม่ต้องการมือที่สามเข้ามาแทรกแซง ดังนั้น จึงเสนอให้มีการพูดคุยแบบทวิภาคี 2 ประเทศเท่านั้น ผ่าน รมว.ต่างประเทศของทั้งสองชาติ โดยหารือข้อสรุปเงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติหยุดยิง ถอยกำลังทหาร และถอยยุทโธปกรณ์ร่วมกัน
พร้อมย้ำว่า ทุกปฏิบัติการทางทหาร มีการหารือร่วมกันระหว่างรัฐบาลและกองทัพ เพื่อปกป้องชีวิตคนไทยมาตลอด และในระหว่างนี้ ทหารจะยังไม่หยุดยิงจนกว่ารัฐบาล 2 ประเทศจะหารือจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งในการตัดสินใจนี้ กองทัพต้องมีส่วนร่วมด้วย และหลังจากทุกอย่างได้ข้อสรุปอย่างแท้จริง ก็จะประสานแจ้งสหรัฐฯ ในเรื่องการเจรจาภาษีต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 68)