CONSENSUS: AURA ยิ้มรับกำไรครึ่งปีแรกโตเด่นรับราคาทองพุ่ง เติมทุนหนุนสภาพคล่อง-ลุยขยายสาขา

โบรกประสานเสียงแนะ “ซื้อ” หุ้น บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ [AURA] คาดกำไรครึ่งปีแรกเติบโตแข็งแกร่ง จากราคาทองคำพุ่งแรง และยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ขณะที่แผนออกหุ้นกู้ในไตรมาส 3/68 ช่วยเสริมสภาพคล่องและปลดล็อกการเติบโตของธุรกิจ “ทองมาเงินไป” นอกจากนี้ แผนการขยายสาขาที่ยังคงดำเนินไปตามเป้าหมายและการปรับขึ้นค่ากำเหน็จก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตต่อเนื่อง

ราคาหุ้น AURA วันนนี้ (29 ก.ค.) ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 0.50 บาท (-3.18%)

โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
โกลเบล็ก ซื้อ 21.40
ดาโอ ซื้อ 21.00
ทิสโก้ ซื้อ 21.00
กสิกรไทย ซื้อ 19.61
หยวนต้า ซื้อ 19.50

นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีแรกของ AURA กำไรยังเติบโตได้ดี ขณะที่แนวโน้มการเติบโตในระยะข้างหน้ายังคงมุมมองบวก

ไตรมาส 2/68 คาดว่า AURA จะรายงานกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY จากรายได้ธุรกิจ Gold Financing เพิ่มขึ้น แต่หากเทียบ QoQ อาจลดลงราว 12% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ธุรกิจขายปลีกทองทั้ง Modern Gold หรือ Design Gold ลดลง

ส่วนของรายได้ในไตรมาส 2/68 ประเมินไว้ที่ 8,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลงเล็กน้อย 3% QoQ เนื่องจากยอดขาย Jewelry ลดลงจากผลกระทบสภาวะเศรษฐกิจทำให้การใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง ขณะที่ธุรกิจขายฝากยังค่อนข้างทำได้ตามเป้าหมาย ประเมินพอร์ตสินเชื่อในไตรมาสนี้ 6,500 ล้านบาท เติบโต 59% YoY และ 26% QoQ

ยอดขายส่วน Jewelry ที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจนั้น บริษัทพยายามชดเชยด้วยการเสริมรายได้ของ Modern Gold ซึ่งได้แรงหนุนจากราคาทองขาขึ้น ขณะที่ไตรมาส 3 โดยปกติเป็นช่วง Low season เบื้องต้นประมาณการกำไรไว้ที่ 275 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าดูภาพการเติบโตทั้งปี เรายังมองว่าบริษัทยังรักษาระดับการเติบโตได้ค่อนข้างดี

ยังคงมุมมองมองเป็นบวกสำหรับ AURA เนื่องจากกำไรในครึ่งปีแรกที่เราประมาณการคิดเป็น 61% ของประมาณการทั้งปีของเราก่อนที่เราปรับประมาณการไว้ประมาณ 1,219 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 21% YoY ซึ่งมาจากรายได้ส่วน Modern Gold และพอร์ต Gold Financing ที่สูงกว่าคาด ทั้งนี้ ผู้บริหารตั้งเป้าหมายกำไรทั้งปีจะเติบโตในกรอบระหว่าง 20-30%

ขณะเดียวกันราคาทองคำในปัจจุบันมองว่ายังเป็นแนวโน้มขาขึ้น ประกอบกับการที่มีข่าวว่าบริษัทจะออกหุ้นกู้ในช่วงเดือนส.ค. และการขยายสาขาของทองมาเงินไปที่ยังตามแผนหนุนการขยายตัวของธุรกิจ Gold Financing ปัจจุบัน AURA มีสาขา 547 สาขา เพิ่มขึ้นราว 21% YoY และ เพิ่มขึ้น 8% QoQ สาขาหลักที่เพิ่มขึ้นมาจากร้าน ทองมาเงินไป ซึ่งเป้าหมายของ AURA จะเปิดสาขาทั้งหมด ณ สิ้นปี 68 ที่ 644 สาขา

เพื่อเป็นการสะท้อนแนวโน้มครึ่งปีแรกที่ออกมาแข็งแกร่ง จึงมีการปรับประมาณการกำไรปกปี 68 ขึ้นประมาณ 9% อย่างไรก็ตามเราปรับประมาณการกำไรปี 69-70 ลงเล็กน้อยประมาณ 2% สะท้อนรายได้ส่วน Jewelry ที่ลดลง และเราปรับประมาณการ SG&A ขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการขายที่คาดเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา

ปัจจุบันหุ้น AURA เทรดอยู่บน Forward PE ในระดับที่ค่อนข้างน่าสนใจ Forward PE ปี 68-69 ที่ 15.4 เท่า และ 14 เท่า เทียบกับ EPS Growth ปี 68 ที่มองว่าจะเติบโต 17% และกำไร 3 ปีที่จะโตเฉลี่ยสูงถึง 16% โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 19.61 บาท ซึ่งปรับลงจากราคาเป้าหมายเดิม 20.10 บาท เป็นการปรับให้สอดคล้องกับปัจจุบัน

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มแผนการเติบโตของ AURA ปัจจัยสนับสนุนได้แก่

  1. ได้รับการเพิ่ม Debt Covenant จากสถาบันการเงินเป็น 2.5 เท่า และการออกหุ้นกู้ในวงเงินราว 5 พันล้านบาทในอนาคต โดยอยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้นกู้ 2.5 พันล้านบาทในช่วง 3-5 ส.ค. ช่วยลดข้อจำกัดในการเติบโตจากช่วงที่ผ่านมา
  2. แผนการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรจากการวางแผนลงทุนในการหลอมทองราว 30-50 ล้านบาทและการเจรจาขยาย Credit Term จากคู่ค้า (ร้านค้าส่งทอง) เพิ่มเป็น 1.5 เดือน (จากปัจจุบันที่ 1 เดือน)
  3. ขยายสาขาเท่าตัวเป็น 1,050 สาขา นำโดยทองมาเงินไปภายในปี 70 ในขณะที่แนวโน้มราคาทองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับค่ากำเหน็จขึ้นสูงระดับ 5.1-5.2 หมื่นบาท/บาททองคำ ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในระยะสั้น

เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น AURA ด้วยราคาเป้าหมายที่ 21 บาท คาดรายได้ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 8,380 ล้านบาท เติบโต 13% YoY จากการขยายสาขาเป็น 535 สาขา เมื่อเทียบกับ 451 สาขาในไตรมาส 2/67 รวมถึงราคาที่สูงขึ้นเป็น 5.2 หมื่นบาท แต่จะลดลง 4% QoQ จากช่วง Low season ของธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะส่วนธุรกิจ Design gold และ Accessories ที่อ่อนตัวลง

ขณะที่คาดยอดขายฝากจะเติบโตก้าวกระโดดเป็นราว 6,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% YoY, เพิ่มขึ้น 25% QoQ ส่งผลให้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นเป็น 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% YoY, เพิ่มขึ้น 17% QoQ จาก ช่วง High season ของธุรกิจที่มีการเปิดภาคเรียนในเดือน พ.ค. โดยเราคาด GPM จะอยู่ที่ 9.9% ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากราคาทองที่ปรับสูงขึ้นทำให้มีสัดส่วนการรับซื้อคืนมากขึ้น ส่งผลให้ เราคาดอัตรากำไรสุทธิ (NPM) จะอยู่ที่ 4.2% เทียบกับ 4.7% ในไตรมาส 2/67 และ 4.6% ในไตรมาส 1/68

และ เบื้องต้นคาดวาผลประกอบการไตรมาส 3/68 จะชะลอตัวลง QoQ เนื่องจากยังเป็นช่วง Low season ของธุรกิจ อย่างไรก็ดี เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับขึ้นค่ากำเหน็จที่จะเริ่มรับรู้ผลประโยชน์เต็มไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้ GPM ปรับเพิ่มขึ้น

อีกทั้ง AURA ยังอยู่ระหว่างเสนอขายหุ้นกู้ 2,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี หลังได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ “BBB” ช่วยให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากเฉลี่ยปัจจุบันที่สูงกว่า 5% ทุกๆ การลดลงของต้นทุนทางการเงิน 100bps จะช่วยเปิดกำไรสุทธิของ AURA ราว 60 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 4.5% ของกำไรสุทธิในปี 68 ประเมินมูลค่า AURA กลางปี 69 ที่ 21.0 บาท โดยใช้ P/E ที่ 19.4 เท่า ความเสี่ยงได้แก่ ความผันผวนของราคาทองคำ และอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น

ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 ของ AURA ที่ 356 ล้านบาท ลดลง 10.7% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 3.2% YoY จากปริมาณธุรกรรมซื้อ-ขายปลีกทองคำยังอยู่ในระดับสูง และทองมาเงินไปรายได้ทำ New High ต่อเนื่อง ขณะที่ไตรมาส 3/68 คาดกำไรลดลง QoQ ไม่มาก แม้เป็น Low season ของทุกธุรกิจ แต่ปีนี้มีการจัดโปรโมชั่นกับบัตรเครดิตและได้ปรับขึ้นต่ากำเหน็จ ทำให้กำไรเติบโตสูง YoY ขณะที่ในไตรมาส 4/68 มีโอกาสทำ New High

คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 68 คาดกำไรครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงหรือมากกว่าครึ่งปีแรก ทำให้กำไรทั้งปีมีโอกาสดีกว่าประมาณการของเราแบบมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การออกหุ้นกู้ในไตรมาส 3/68 ช่วยเสริมการเติบโตของ “ทองมาเงินไป” ซึ่งมีนัยสำคัญมากในแง่ของกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิ

ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันไม่แพง PER2025 อยู่ที่ 15.6 เท่า แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 19.50 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 68)