
นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ลงชื่อรวม 34 คน ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ MOU 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา ต่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 1 โดยจะมีการพิจารณาในวันที่ 7 ส.ค. เนื่องจากวันที่ 31 ก.ค.นี้ มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องภาษีสหรัฐฯ
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้เคยยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ลงนามในการเซ็น MOU ปี 2544 เนื่องจากความเป็นห่วงของประชาชนทั่วประเทศ ว่า MOU ที่ไทยทำกับกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยมีแต่เสียเปรียบ ประกอบกับ MOU ปี 2552 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมีมติ ครม.ให้ยกเลิก MOU 2544 โดยให้เหตุผลว่าประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการตามข้อตกลงได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติ และไม่ผ่านรัฐสภา
ซึ่งในรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 178 บัญญัติไว้ว่า การไปลงนามทำ MOU แบบนี้ จำเป็นต้องผ่านรัฐสภา แต่ MOU 2544 ไม่ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา จึงถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญปี 2560
“ไทยไม่เคยทำ MOU กับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ลาว หรือเมียนมา เราไม่เคยทำ MOU ในลักษณะแบบนี้ แต่ทำกับกัมพูชาประเทศเดียว เนื้อหาสาระที่เป็นห่วง คือ เราพยายามจะใช้แผนที่ 1 : 50,000 แต่กัมพูชา พยายามใช้แผนที่ 1 : 200,000 ไม่มีใครที่ไหนต้องการทำให้แผนที่มีความหยาบ จึงมีความเป็นห่วงว่าหากเราใช้สัดส่วน 1 : 200,000 เมื่อลากเส้นตรงไป จะติดเกาะกูดของเราไปด้วย” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
ขณะที่ MOU 2543 คือ MOU ที่มีการบันทึกความเข้าใจเรื่องพรมแดนอาณาเขตประชาธิปไตย และการจัดหาผลประโยชน์ระหว่างแนวเขตบนบก ที่เรามีปัญหากันอยู่ ส่วน MOU 2544 เกี่ยวข้องกับเรื่องทะเล ซึ่งมีทรัพยากรมหาศาล ดังนั้นจึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด MOU ฉบับนี้ต้องมีการรักษาท่าทีแล้วคงไว้ เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมหาอำนาจ อย่างสหรัฐฯ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น หรือไม่
ดังนั้น ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะสมที่สุดแล้ว ที่รัฐบาลจะหยิบยกประเด็นปัญหาใน MOU 43 และ 44 มายกเลิกกับกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่รักษาคำพูด
“พี่น้องก็เห็นแล้วว่าฝั่งกัมพูชา หลังเที่ยงคืนยังมีเสียงปืน อย่างนี้เราจะไปยึดถือ MOU 43 , 44 ได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลชุดนี้ อยากจะมี MOU ทำความเข้าใจกับคนที่ไร้สติ ก็ไปทบทวนกันใหม่ จะมาทำ MOU ปี 68 หรือ 69 ก็ให้มีสติก่อน ให้เขาไปหายามารักษา ให้มีสติที่สมบูรณ์ก่อน” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 68)