
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.73 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงมากจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.49 บาท/ดอลลาร์
ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง กดดันโดยการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาทองคำ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดเริ่มปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ ประธานเฟด ยังคงย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรอประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ให้รอบด้าน และไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมจะกลับมาลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ย. ตามที่ตลาดคาดหวัง
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยังมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงต่อได้ แต่การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัดได้ หลังผู้เล่นในตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ของเฟดในปีนี้ ลงมาพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ดี ยังต้องรอลุ้นผลการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ซึ่งหากสุดท้าย สินค้าส่งออกของไทยเผชิญอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 36% เงินบาทก็เสี่ยงอ่อนค่าลงอีกได้ราว 1.2%
สำหรับปัจจัยต่างประเทศวันนี้ ตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ตลาดจะรออัตราเงินเฟ้อ PCE ในเดือนมิ.ย. พร้อมรอประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่านรายงานทั้ง Challenger Job Cuts เดือนก.ค. และยอด
ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน
“ความผันผวนของเงินบาทอาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย” นายพูน ระบุ
นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.60-32.85 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 149.23 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 147.95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1420 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.426 บาท/ดอลลาร์
- “ไทย” ลุ้นระทึกผลเจรจา ภาษีทรัมป์ สหรัฐส่ง Final draft ให้ไทยตรวจเรียบร้อยแล้ว “จตุพร” มั่นใจสรุปทันเส้นตาย 1 ส.ค.ได้อัตราใกล้เคียงภูมิภาค “ส.อ.ท.-หอการค้า” ลุ้นภาษีทรัมป์ 19-20% ชี้มีสัญญาณดี หลังไทยโชว์สปิริตหยุดยิงชายแดน สรท.ชี้อัตราใกล้เคียงภูมิภาคส่งผลดี ต่อการส่งออกรักษาตลาดสหรัฐได้ สศค.เพิ่ม จีดีพีไทยเป็น 2.2% มั่นใจไทยได้อัตราภาษีทิศทางเดียวกับประเทศอื่น
- กระทรวงการคลังรายงานผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67-มิ.ย.68) ว่าสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ 2.04 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 3.03 หมื่นล้านบาท โดยภาษีรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีต่ำกว่าประมาณการ
- ททท.ประกาศแผนยุทธศาสตร์ปี 2569 เริ่มปฏิบัติการเดือน ต.ค.2568 เป็นต้นไป เปลี่ยนกระบวนทัศน์จาก “ปริมาณ” สู่ “คุณภาพ” ใช้แนวคิด “Healing is the New Luxury” สร้างประสบการณ์ไม่รู้ลืม พร้อมเปิดตัว Global Brand Ambassador ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกและจัดงาน TOMORROWLAND THAILAND ครั้งแรกในเอเชีย มุ่งพลิกโฉมไทยสู่จุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าและยั่งยืน
- ต่างชาติ” พลิกซื้อสุทธิ หุ้นไทย 1.58 หมื่นล้าน ครั้งแรกรอบเดือน 20 เดือน หลังเจรจาภาษีสหรัฐการเมืองคลายตึงเครียด “บล.เอเซีย พลัส” ส่องเดือนส.ค. ฟันด์โฟลว์ยังทยอย ไหลเข้าต่อ จ่อรับสารพัดหลายปัจจัยหนุนเห็นเข้ากลุ่ม Value 10 หุ้นต่างชาติซื้อสูงสุด “บล.กสิกรไทย-บล.บัวหลวง” ลุ้นภาษีทรัมป์ปิดดีลใกล้ 20% ชี้ต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวานนี้ (30 ก.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 แม้เฟดถูกกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย.หรือไม่ และระบุว่านโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันอยู่ในระดับที่คุมเข้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจ
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.0% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.3% และดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 104,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 64,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง 23,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
- สหรัฐฯ ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% โดยจะมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ (1 ส.ค.) เป็นต้นไป ตามคำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกีดกันทางการค้าที่มุ่งเป้าหมายไปยังประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ขณะที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเผชิญเส้นตายในการตกลงเรื่องภาษีตอบโต้ภายในวันศุกร์นี้
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้แล้ว โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตรา 15% ลดลงจากระดับ 25% ที่เขาได้ประกาศไว้ในช่วงต้นเดือนก.ค.
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (30 ก.ค.) หลังจากถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (30 ก.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.
- จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยครั้งที่สี่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 68)