
คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ (31 ก.ค.) โดยคณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ตามคาด และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ มีมุมมองบวกว่าการบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ จะช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถหลีกเลี่ยงการชะลอตัวลงอย่างรุนแรงได้
ทั้งนี้ BOJ คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด จะปรับตัวขึ้น 2.7% ในปีงบประมาณ 2568 เทียบกับก่อนหน้านี้ที่คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 2.2% ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 0.6% ในปีงบประมาณ 2568 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 0.5%
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ผู้ว่าการ BOJ ได้ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยว่า “หากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเคลื่อนไหวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเรา เราก็คาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับระดับของการสนับสนุนทางการเงินให้สอดคล้องกับการที่เศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีพัฒนาการที่ดีขึ้น”
ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อนั้น อุเอดะแสดงความเห็นว่า “ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลดน้อยลงเนื่องจากการทำข้อตกลงการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ แต่การคาดการณ์ของเราที่ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะซบเซาไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอการเติบโตนั้นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของแต่ละประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง”
“อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ของเราที่ระดับ 2% แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นปานกลาง ขณะที่วงจรของค่าจ้างและเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นนั้นยังคงดำเนินต่อไป แต่ไม่ใช่ว่าเราจะรอจนกว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 2% อย่างมั่นคง การตัดสินใจของเราว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มจะไปถึงระดับนั้นมากน้อยเพียงใด” อุเอดะกล่าว
นอกจากนี้ ผู้ว่าการ BOJ ได้กล่าวถึงผลกระทบของภาษีศุลกากรว่า แม้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรอาจลดลงแล้ว แต่ผลกระทบของภาษีศุลกากรในอัตราสูงของสหรัฐฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจยังคงไม่ชัดเจน และเขาไม่คิดว่าความไม่แน่นอนเหล่านี้จะหมดไปในทันที
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 68)