
สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานในวันนี้ (4 ส.ค.) ว่า สอ สุขา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา มีคำสั่งห้ามใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) หรือโดรน ในจังหวัดต่าง ๆ ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย โดยอ้างความกังวลต่อปัญหาอันอาจกระทบต่ออธิปไตยแห่งชาติและความมั่นคงส่วนภูมิภาค
คำสั่งห้ามนี้มีผลบังคับใช้ทันทีเป็นเวลา 15 วัน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย, พระวิหาร, บันทายมีชัย, พระตะบอง, ไพลิน, โพธิสัตว์, เกาะกง, เสียมราฐ และกำปงธม ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ใกล้แนวชายแดนที่มีข้อพิพาท
ตามคำสั่งระบุว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการป้องกันด้านความมั่นคง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจคุกคามบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนกับประเทศไทยที่เกิดขึ้นล่าสุด
ทั้งนี้ จึงมีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลการปฏิบัติตามประกาศคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ และจัดทำรายงานผลการดำเนินงานเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยผ่านกรมการปกครองเป็นรายวัน
ผู้ใดฝ่าฝืนนำโดรนขึ้นบินในเขตหวงห้าม จะต้องถูกลงโทษทางปกครองและมีบทลงโทษตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
“คำสั่งนี้จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือการกระทำที่ยั่วยุอันเกิดจากการใช้โดรนในพื้นที่อ่อนไหวช่วงนี้” กระทรวงฯ ระบุ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการใช้การทูตอย่างสันติเพื่อแก้ไขข้อพิพาทชายแดนตามกฎหมาย
อนึ่ง รัฐบาลกัมพูชาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการยกระดับการเฝ้าระวังและความร่วมมือระหว่างจังหวัด เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนตลอดแนวชายแดนฝั่งตะวันตก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)