ไทย-กัมพูชา: “ภูมิธรรม” กำชับผู้ว่าฯ จ.ชายแดนประเมินความปลอดภัย หลังศูนย์อพยพขอคืนพื้นที่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ถูกปรับใช้สถานที่เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว ในช่วงเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้ต้องการคืนพื้นที่ศูนย์อพยพ เพื่อเปิดการเรียนการสอนว่า ได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ชายแดน ทำหน้าที่ประสานงานกลาง และดูแลบังคับบัญชาการ ตลอดจนร่วมประเมินสถานการณ์กับทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่ามีความปลอดภัยแน่นอนหรือไม่

พร้อมระบุว่า ได้กำชับไปแล้วว่า อย่าให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะประชาชนต่างเผชิญความยากลำบากมามากแล้ว ผู้ว่าฯ ต้องทำหน้าที่ให้ได้ เพราะถือเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการดูแลประชาชนในพื้นที่ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องให้คนอื่นมาทำแทน

“ผู้ว่าฯ ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ ไม่ต้องให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดูแลพี่น้องประชาชนให้ดี เขาทุกข์และลำบากมามากแล้ว ต้องดูแลเขาให้เต็มที่…ถ้าผู้ว่าฯ อยู่ตรงนั้น แล้วไม่สามารถเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการบริหารได้ ก็ต้องพิจารณาว่าบกพร่องเรื่องอะไร เห็นหลายคนออกมาพูด ก็ให้ไปคุยกับผู้ว่าฯ ก็อยู่ในจังหวัดประสานงานกันอยู่แล้ว ทำไมถึงยังมาเป็นแบบนี้ ให้แจ้งมาให้ชัดเจน ว่าผู้ว่าฯ มีปัญหา หรือหน่วยไหนมีปัญหา” นายภูมิธรรม กล่าว

ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอาจมีความจำเป็นที่จะต้องประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก เพื่อนำความเห็นของคณะเลขานุการที่ร่วมประชุม GBC ในช่วงเช้ามาพิจารณา ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ได้รับรายงาน จึงต้องขอรอให้ส่งเรื่องมาก่อน

ส่วนกรณีที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำดวน สามารถควบคุมตัวสายลับกัมพูชา ซึ่งเป็นทหารหน่วย BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ได้ที่ จ.บุรีรัมย์ นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องให้ทางราชการดำเนินการไป แม้จะยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นคนของใคร แต่ยอมรับว่าเป็นการเข้ามาในลักษณะพิเศษ ซึ่งเราต้องใช้ความระแวดระวังอยู่แล้ว

“ต้องระแวดระวังเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะจากที่มีข่าวออกมาจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถึงแม้จะยังยืนยันในข้อเท็จจริงไม่ได้ ว่าเป็นของคนนั้นคนนี้ แต่ยอมรับว่ามีลักษณะการเข้ามาเป็นพิเศษ” นายภูมิธรรม กล่าว พร้อมย้ำว่า ช่วงนี้ต้องเข้มงวด เพราะยังไม่รู้ว่าการเจรจา GBC จะมีผลสรุปเป็นอย่างไร

ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ตำรวจตรวจยึดโดรนได้กว่า 200 ลำ ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนจะเชื่อมโยงไปถึงกัมพูชาหรือไม่นั้น คงต้องดูจากข้อเท็จจริงก่อน

“ขอให้ผลสอบสวนเสร็จค่อยว่ากัน แต่ได้รับทราบว่ามีการจับกุมไปเมื่อคืนนี้ ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานมา…ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้าข้อเท็จจริงไปถึง โยงไปได้เท่าไรก็เท่านั้น แต่ถ้าไม่ใช่ ก็จบไป” นายภูมิธรรม ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 68)