
BDMS บวก 1.91% มาที่ 21.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 328.88 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.33 น. จากราคาเปิด 21.00 บาท ราคาสูงสุด 21.30 บาท ราคาต่ำสด 20.90 บาท ขณะที่ดัชนี SET ลบ 3.91 จุด(-0.31%)
บล.พาย มองว่าผลประกอบการบมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ [BDMS] ในไตรมาส 3/68 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ แม้จะมีฐานสูงด้วยจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดที่มากในปี 67 และแนวโน้มรายได้กลุ่ม CLMV ที่อ่อนแอ YoY ทั้งนี้ คาดการเติบโตยังคงมีปัจจัยหนุนจาก 1) ปัจจัยฤดูกาลด้วยโรคระบาดหลังฤดูฝน เช้น ไข้เลือดออก และไข้หวัดใหญ่ ประกอบกับเป็นช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งมีแนวโน้มหนุนจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้น QoQ และ 2) แนวโน้มการเติบโตของสัดส่วนผู้ป่วยโรคซับซ้อน หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตที่ 35-37%
ส่วนรายได้จากผู้ป่วยกัมพูชาในไตรมาส 2/68 ลดลง 12% YoY หลังมีปัญหาข้อพิพาทชายแดน ถึงแม้เรามองว่าผู้ป่วยกัมพูชามีผลกระทบต่อรายได้ที่จำกัด (คิดเป็น 3% ของรายได้ทั้งหมด) แต่มีแนวโน้มว่าหากมํปัญหาชายแดนมีความยืดเยื้ออาจส่งผลดีต่อรายได้ในกลุ่ม CLMV ตาม จากความกังวลในภูมิภาค โดยอ้างอิงจากรายงานรายได้กลุ่ม CLMV ในไตรมาส 2/68 และเดือน ก.ค. ที่หดตัว 4% YoY และ 26% YoY ตามลำดับ
เราคงคาดการณ์การเติบโตกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 5% หนุนจากแนวโน้มการเติบโตของผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดบรายได้หลักในครึ่งปีแรก ปี 68 รายงานที่ 5.5 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามที่เราคาด คิดเป็น 48% ของคาดการณ์ปี 2568 ขณะที่ EBITDA Margin คาดทรงตัวระดับสูงที่ 24-25%
ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 26 บาท คำนวณโดยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วยสมมติฐาน COE 8% และ TG 4% เทียบเท่า PE ที่ 25x และ BDMS มีพื้นฐานแช็งแกร่ง และราคาหุ้นที่น่าสนใขซื่อขายที่ EV2EBITDA ’25 ที่ 12x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคู่แข้งที่ 16x และ PE’25 ที่ 19x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีของบริษัทที่ 35x และใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)