
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบเชิงรุก เช่นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ธนาคารกลางจีนระบุในรายงานรายไตรมาสว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น กำแพงการค้าที่สูงขึ้นและอุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอ อย่างไรก็ดี ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นสูง
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในระดับปานกลางอย่าง “รอบคอบ” ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจแบบเจาะจงเป้าหมาย
ในส่วนของภาวะเงินฝืด ซึ่งเป็นปัญหาที่รุมเร้าจีนมานานกว่าสองปีนั้น ธนาคารกลางจีนระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าการที่รัฐบาลจีนดำเนินการกวาดล้างการแข่งขันด้านราคาที่ “ไร้ระเบียบ” ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อกระตุ้นการบริโภคนั้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อภาวะเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์จากธนาคารระดับโลกหลายแห่ง รวมถึงซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนแสดงมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางกำลังส่งสัญญาณที่จะเลื่อนการใช้เครื่องมือผ่อนคลายทางการเงิน เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ ออกไปในช่วงปลายปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานดังกล่าวของธนาคารกลางจีนมีขึ้นไม่นานหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ (15 ส.ค.) ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 3.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในปีนี้ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 5.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นเพียง 1.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% และชะลอตัวลงจากในช่วง 6 เดือนแรกที่มีการขยายตัว 2.8%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)