“วิสุทธิ์” เชื่อ “อุ๊งอิ๊งค์” จะได้รับความยุติธรรม นายกฯ ยังเป็นของเพื่อไทย พรรคอื่นรอไปก่อน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ว่า สส.ทุกคนของพรรค ไม่มีใครหวั่นไหวหรือกังวลใจ แต่ทุกคนกำลังใจดีหมด และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนนั้น เป็นเจตนาอันบริสุทธิ์ในการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และเพื่อรักษาชีวิตของคนไทยในกัมพูชา ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรมแน่นอน

พร้อมมั่นใจว่า ไม่จำเป็นต้องมีแผนสำรอง เพราะเชื่อมั่นในเจตนาดีของนายกรัฐมนตรี แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ยังเชื่อว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยังเป็นของพรรคเพื่อไทยอยู่ดี เพราะนายชัยเกษม นิติสิริ ก็ยังอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องไปกังวล

“คนอื่นรอก่อน รอไปสมัยหน้า สมัยนี้ไม่มีโอกาสแล้ว และไม่กลัวว่าจะมีการเปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนทำไม ทุกวันนี้ก็ยังอยู่กันได้ แม้เสียงจะปริ่มน้ำ ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว ถ้าเกิดปัญหา ก็ยังมีคนของพรรคเพื่อไทย ตามหลักเกณฑ์ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน คนอื่นรอก่อน สมัยหน้าว่ากันใหม่ ทำดีแล้วประชาชนจะเลือกกลับมาไ นายวิสุทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จะดึงพรรคภูมิใจไทยกลับมาร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงยาก เพราะวันนี้เราก็ไม่ได้คิดว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ซึ่งในพรรคเพื่อไทยก็ได้พูดคุยกัน และยังเชื่อมั่นในตัวของ น.ส.แพทองธาร และเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม อีกทั้งไม่กังวลในเรื่องข้อกฎหมา เพราะการหารือของนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซน เป็นการคุยกันส่วนตัว ซึ่งในส่วนของเรื่องชายแดนนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ฝ่ายทหารทำหน้าที่ดูแล รวมทั้งเรื่องของความมั่นคง และเรื่องกฎอัยการศึก ดังนั้นจึงไม่มีความกังวลเรื่องข้อกฎหมายใด ๆ

ส่วนที่วิเคราะห์กันว่า ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะรอด หรือไม่รอดจากคำตัดสินของศาล ก็อยู่ยากนั้น นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ยาก หากไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร ขออย่าไปสร้างกระแสให้เกิดความวุ่นวาย

“ให้ผ่านวันที่ 29 ส.ค.นี้ไปก่อน ทำไมต้องยาก หากไม่ผิด จะไปกลัวอะไร อย่าไปสร้างกระแสให้มันวุ่นวาย ประเทศจะเดินหน้าไปได้ ด้วยความรัก ความสามัคคี” นายวิสุทธิ์ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 68)