สหรัฐฯ-ชาติพันธมิตรจ่อให้หลักประกันความมั่นคงแก่ยูเครนตามมาตรา 5 ของนาโต

สหรัฐฯ และบรรดาชาติพันธมิตรกำลังหาลู่ทางที่จะเสนอหลักประกันความมั่นคงแก่ประเทศยูเครน โดยเป็นหลักประกันอันมีลักษณะเดียวกันกับสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันตามมาตรา 5 แห่งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และนับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ ซึ่งได้มีการหยิบยกขึ้นหารือ ณ ทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ (18 ส.ค.) ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ, ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และเหล่าผู้นำชาติตะวันตก

การหารือครั้งสำคัญนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันภายหลังการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ณ รัฐอะแลสกา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ส.ค.)

มาร์ก รุตเตอ เลขาธิการองค์การนาโตได้ออกมายืนยันว่า แม้ประเด็นการเข้าเป็นสมาชิกนาโตโดยสมบูรณ์จะยังไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นสู่โต๊ะเจรจา แต่หัวใจสำคัญของการหารือได้มุ่งไปที่การมอบ “หลักประกันความมั่นคงในแบบฉบับของมาตรา 5” ให้แก่ยูเครน

ทั้งนี้ มาตรา 5 แห่งสนธิสัญญาก่อตั้งนาโตนั้นได้บัญญัติหลักการป้องกันร่วมกันไว้ กล่าวคือ หากชาติสมาชิกใดถูกรุกราน จะถือเสมือนว่าชาติสมาชิกทุกชาติถูกรุกรานพร้อมกัน ดังนั้น การมอบคำมั่นสัญญาแบบเดียวกันนี้แก่ยูเครนย่อมถือเป็นก้าวสำคัญในการพิทักษ์ความมั่นคงของชาติ ซึ่งถูกรัสเซียใช้กำลังเข้ารุกรานเมื่อปี 2565

แม้รุตเตอจะยืนยันถึงการเจรจาด้านความมั่นคง แต่ก็ได้เน้นย้ำว่า ไม่มีการหารือถึงเรื่องการส่งทหารของฝ่ายพันธมิตรเข้าไปเหยียบดินแดนยูเครนแต่ประการใด

จุดยืนอย่างเป็นทางการขององค์การนาโตยังคงหนักแน่นว่า ยูเครนกำลังเดินอยู่บน “เส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับคืนได้” สู่การเป็นสมาชิก ถึงกระนั้น รุตเตอก็ยอมรับว่า “สหรัฐฯ และอีกบางประเทศได้แสดงท่าทีคัดค้านการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน” ในสถานการณ์ปัจจุบัน

ภายหลังการประชุมเมื่อวันจันทร์ ซึ่งปธน.ทรัมป์ได้กล่าวว่าเป็นการประชุมที่ “ดีมาก” นั้น ผู้นำสหรัฐฯ เผยว่า เขาได้ต่อสายตรงถึงปธน.ปูติน เพื่อเริ่มดำเนินการจัดให้มีการประชุมสามฝ่าย อันประกอบด้วยผู้นำรัสเซีย ผู้นำยูเครน และตัวเขา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)