
นายพิริยพล คงวาณิช นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่ง บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 โตแรงทั้ง YoY และ QoQ (สูงกว่าตลาดคาด 10.5% และสูงกว่าที่เราคาด 6.1%): เพิ่มขึ้น 31% YoY และ 16% QoQ ราคาเนื้อสัตว์/รายได้จากบริการมือถือ-อินเทอร์เน็ตยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ แม้ยังโดนกดดันจากกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก ทั้งพลังงาน (ไม่รวมโรงไฟฟ้า) แพ็กเกจจิ้ง และอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่กลุ่มเชื่อมโยงท่องเที่ยว/อสังหาฯ ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักออกมาตามคาด (สำหรับหุ้นใน BLS coverage)
กลุ่มที่กำไรหลักออกมาเติบโต YoY นำโดยกลุ่มสื่อสาร (รายได้จากบริการมือถือ-อินเทอร์เน็ตเติบโต), กลุ่มรับเหมาฯ (รับรู้งานก่อสร้างเพิ่มขึ้น), กลุ่มอาหาร (กลุ่มเนื้อสัตว์ราคาเนื้อหมูสูงขึ้น ในขณะที่ราคาต้นทุนกากถั่วเหลืองและราคาข้าวโพดลดลงหนุนมาร์จิ้น, กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังราคาต้นทุนน้ำตาลและเศษแก้วลดลง), กลุ่มยานยนต์ (ฐานต่ำในปีก่อน ยอดขายรถยนต์ในประเทศไตรมาส 2 กลับมาโต YoY), กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC แม้ค่าไฟฟ้าลดลง YoY)
กลุ่มที่กำไรหลักออกมาลดลง YoY/ยังขาดทุน นำโดยกลุ่มพลังงาน (ราคาพลังงานที่ลดลงกดดันกำไรกลุ่มพลังงานต้นน้ำ แม้กลุ่มโรงกลั่นได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ), กลุ่มปิโตรฯ/วัสดุก่อสร้าง (ส่วนต่างปิโตรฯ/ปริมาณขายยังอ่อนแอ), กลุ่มแพ็กเกจจิ้ง (ราคาขายลดลงทั้งบรรจุภัณฑ์และเยื่อ/กระดาษ), กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (แรงกดดันจากภาษี GMT กลบผลบวกจากดีมานด์ AI/data center ที่ยังแข็งแรง ขณะที่ดีมานด์สินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ยังอ่อนแอ), กลุ่มโรงแรม (รายได้ต่อห้องพัก RevPar ลดลงทั้งในไทยและมัลดีฟส์), กลุ่มอสังหาฯ (ยอดจองและมูลค่ายอดออกโครงการใหม่หดตัว YoY), กลุ่มค้าปลีก (ยอดขายสาขาเดิมหดตัวแรงสำหรับกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง กลุ่มค้าปลีกของใช้จำเป็นทรงตัว ในขณะที่กลุ่มค้าปลีกสินค้า IT ยังโตดียอดขายสินค้าจาก Apple และห้างสรรพสินค้าที่อิงรายได้ผู้เช่า รายได้ผู้เช่ายังโตราว 4% YoY)
สัดส่วนจำนวนหุ้นที่กำไรสูงกว่าคาดเทียบกำไรต่ำกว่าคาด (Beat-to-miss ratio) ลดลงแรงแม้ภาพกำไรสุทธิรวมออกมาดีกว่าคาด สะท้อนภาพกำไรที่อาจฟื้นตัวไม่ทั่วถึง โดย Beat-to-miss ratio ไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 0.9x ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 2.7x และค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 1.1x สัดส่วนจำนวนหุ้นที่กำไรดีกว่าคาดลดลงเหลือ 30% ไตรมาส 2/68 จากไตรมาสก่อนที่ 48% และค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 38%
อย่างไรก็ตาม Earnings revision ส่งสัญญาณกำไรไตรมาส 3 ยังมีความเสี่ยง upside จำกัดในระยะสั้น ประมาณการกำไรตลาดยังถูกปรับลงต่อ (แม้เริ่มเบาบางลง) สัดส่วนจำนวนหุ้นที่ถูกปรับกำไรทั้งปีลง-เทียบปรับขึ้น (Earnings revision breadth) ยังคงติดลบ สะท้อนจำนวนหุ้นที่ถูกปรับลงยังมากกว่าปรับขึ้น กลุ่มที่ถูกปรับลงแรง ได้แก่ กลุ่มอสังหาฯ ท่องเที่ยว และกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก เช่น พลังงาน/ปิโตรฯ อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่กลุ่มที่ปรับขึ้น ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง อาหาร สื่อสาร แพ็กเกจจิ้ง
คัดหุ้น Future-proof ผ่านกลยุทธ์ Data-driven selection: เน้นหุ้นที่ 1) กำไรไตรมาส 2/68 ไม่ต่ำกว่าคาดแรง (ไม่เกิน 10%), 2) รายได้ไม่หดตัวแรง (ไม่เกิน 5%), 3) กำไรไตรมาส 3 โตต่อ YoY และ/หรือฟื้นตัว QoQ 4) ไม่เห็นการปรับกำไรลงแรง 3 เดือนที่ผ่านมา และ 5) มีปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัวชัดเจน ได้แก่ กลุ่มคาดโตเด่น YoY ไตรมาส 3: COM7 ADVICE CPALL SCC ADVANC GULF, กลุ่มคาดฟื้นตัว QoQ: DELTA ITC
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)