“เท้ง” เรียกกองเชียร์เกาะติดนัดไต่สวนคดี GULF ฟ้องหมิ่นเรียก 300 ลบ.ยันเดินหน้าทวงคืนค่าไฟ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำนายวรภพ วิริยะโรจน์ และ นายศุภโชติ ไชยสัจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า ส่วนตัวถูก บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ฟ้องร้องในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจำนวน 100 ล้านบาท ส่วนนายวรภพ และนายศุภโชติ ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาลักษณะเดียวกัน พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกคนละ 100 ล้านบาทจากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รวม 3 คน 3 คดีมีมูลค่าความเสียหายทางแพ่งทั้งหมด 300 ล้านบาท

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จะเดินทางไปไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่ศาลอาญารัชดา ด้วยตนเอง จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันติดตามการทำหน้าที่ในการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมต่อไป และติดตามความคืบหน้าในคดีที่ทั้ง 3 คนถูกดำเนินคดีต่อไป เพื่อทวงคืนค่าไฟที่โปร่งใส และเป็นธรรม ให้กับประชาชนทุกคน

“ในการเรียกร้องทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต ในฐานะผู้แทนราษฎร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การฟ้องร้องดำเนินคดีพวกเราในครั้งนี้ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนไหน กลุ่มทุนพลังงาน หรือกลุ่มคนใด ๆ จะไม่ทำให้พวกเราหวั่นไหว หรือหยุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรตรงนี้ต่อไป” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคได้ต่อสู้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าที่เป็นธรรม โปร่งใส และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะเล็งเห็นว่าค่าไฟไม่ใช่แค่ตัวเลขบนบิลค่าไฟ แต่เป็นต้นทุนในการดำรงชีวิต และการประกอบธุรกิจ ซึ่งเราได้สะท้อนปัญหาในหลายเรื่อง อย่างต้นทุนแฝง แต่น่าเสียดายว่าเมื่อเรามองในแผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้จริงจัง ทั้งยังเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถรับซื้อพลังงานไฟฟ้าที่ล้นอยู่ให้เพิ่มขึ้นไปได้อีก หรือเปิดช่องให้สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมที่เกินความจำเป็นซ้ำรอยเดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะทำให้เราไม่สามารถแก้ไขได้อีกในอนาคต เช่น เมื่อมีการเซ็นสัญญาณลงนามไปแล้ว ก็ยากที่จะแก้ไข และจะเป็นภาระของลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต จากการที่รัฐบาลยังได้อาศัยจังหวะที่ข่าวคราวนี้เงียบลง เดินหน้าปรับการซื้อพลังงานไฟฟ้าต่อ โดยเปลี่ยนวิธีที่พวกเราเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว เป็นการเจรจาลดราคารับซื้อจากเอกชนแทนนั้น

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ สะท้อนปัญหา 4 ประการคือ 1.เป็นกระบวนการที่ไม่เปิดประมูลในการรับซื้อ โดยใช้ราคารับซื้อเดิม ทั้งที่ราคาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลงขึ้นทุกปี จึงตั้งคำถามว่า รัฐบาลซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนที่เกินจริงหรือไม่ 2.ไม่มีการเปิดเผยกระบวนการการรับซื้อ 3.ไม่มีเหตุผลรับรองใด ๆ เลยว่า พวกเราจะต้องสำรองไฟฟ้าเพิ่มเติมไปทำไม ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้มีไฟฟ้าที่เกินจำเป็นอยู่แล้วในประเทศ และ 4.พวกเราเห็นว่า เป็นการกีดกันการแข่งขัน เพราะล็อกให้กลุ่มทุนเดิมๆ หรือไม่

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้พรรคประชาชนได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบกระบวนการรับซื้อพลังงานไฟฟ้า หรือนโยบายไฟฟ้าของประเทศนี้ ตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 68)

ข่าวล่าสุด