TKC ส่งซิกครึ่งปีหลังโตแกร่ง Backlog แน่น 2,179 ลบ.เดินหน้าลุยธุรกิจเมกะเทรนด์

นายปิยะ จิราภาพงศา รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส [TKC] เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยมีงานโครงการที่ผ่านการอนุมัติแล้วและมีงานที่อยู่ใน Pipeline เข้ามาสนับสนุนจะช่วยให้การรับรู้รายได้ของบริษัทกลับมาเติบโต พร้อมเดินหน้ารุกตลาดโซลูชันดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่ม Smart Solution เช่น Smart Airport, Smart Campus, Smart Classroom, Smart Grid, Smart Building, ระบบ AI, Cloud และไซเบอร์ซีเคียวริตี้ นอกจากนี้ บริษัทได้เดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ด้านคลาวด์เซอร์วิส งานซอฟต์แวร์ ซึ่งมีมาร์จินสูง ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในระยะยาวอีกด้วย

ปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 2,179 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 60% โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 68 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% ด้วยการวางกลยุทธ์หลักในการสร้างรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนผ่าน 3 แกนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย Core Business – New Business – JV และ M&A โดยธุรกิจหลักยังคงสร้างความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญงานวางระบบ ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน พร้อมทั้งการขยายเข้าไปในธุรกิจใหม่ๆ และการหาพันธมิตรในรูปแบบ JV และ M&A เพื่อเร่งแผนการโตอย่างก้าวกระโดดได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโอกาสในงานภาครัฐและเอกชนที่ยังคงลงทุนในดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนจากภาครัฐ

“ในปี 68 Core Business, New Business, JV และ M&A จะเป็นกลไกในการหนุนทั้งรายได้และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทลงทุนในหุ้นสามัญของ บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี [AIT] ในไตรมาส 2/68 เพิ่มอีก 10% ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 34.90% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายของภาครัฐ จะสนับสนุนรายได้ให้กับ TKC ในปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 20%” นายปิยะ กล่าว

ล่าสุด TKC ได้เปิดตัว “ThaiCA” เป็นผู้ออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นบริการที่ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย เป็นการตอบโจทย์การใช้งานทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมออกใบรับรองดิจิทัล ในกลุ่มลงนามเอกสารเจ้าแรกในไทย มุ่งตอบโจทย์การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีแรก 30% และคาดว่าตลาดจะมีมูลค่า 500 ล้านบาทในปี 71

ThaiCA คล้ายกับการออกบัตรประชาชนให้ไปยืนยันตัวตนเวลาทำธุรกรรม แต่เมื่อมาอยู่บนออนไลน์จึงเป็นรูปแบบดิจิทัล ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ธุรกรรมดิจิทัลของไทย ซึ่งการลงนามด้วยระบบดิจิทัลที่มีการรับรองจากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นจากทาง Adobe Microsoft และอื่น ๆ สามารถระบุไทม์แสตมป์ใช้พิสูจน์ยืนยันทางกฎหมายได้ดีกว่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 68)