
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรควันนี้ว่า ตนคงบอกไปก่อนไม่ได้ว่าวันนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ เนื่องจากที่ประชุมมีความเห็นที่หลากหลายมาก
โฆษกพรรค ปชน. ยอมรับว่า สถานการณ์ตอนนี้มีความลำบากใจ เพราะทั้ง 2 กลุ่มต่างยอมรับเงื่อนไขทั้งหมด ซึ่งต้องทบทวนเหตุผลกันดี ๆ ว่าเรามาถึงจุดนี้ด้วยเหตุผลอะไร เพราะกลุ่มผู้ที่ให้การสนับสนุนพรรคอาจมีความเห็นว่าจะไม่เลือกใครได้หรือไม่ ซึ่งเกรงว่ากลุ่มแดงและน้ำเงินอาจกลับไปรวมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลอยู่ยาวต่อไปเกือบ 2 ปี แต่สถานการณ์เหมือนช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่การบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย
ในทางตรงกันข้ามหากกลุ่มแดงและน้ำเงินไม่สามารถรวมกันจัดตั้งรัฐบาลได้ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร หรือมาจากนอกระบอบประชาธิปไตย
“ขั้นตอนแรกแม้หนักใจ แต่เป็นกระบวนการที่นำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วและป้องกันสถานการณ์ที่ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ แต่ผลจะออกมาอย่างไร สิ่งที่พรรคประชาชนจะดูที่กลไกในการควบคุมให้เกิดการรักษาสัญญา และแต่ละคนของพรรคประชาชนจะเชื่อใครได้มากกว่าว่าจะรักษาสัญญา เพราะอยู่บนพื้นฐานความไม่ไว้วางใจทั้งคู่” นายพริษฐ์ กล่าว
โฆษกพรรค ปชน. กล่าวว่า ประการแรกต้องเช็คว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีความเข้าใจต่อเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อของพรรคประชาชนมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะพิสูจน์ถึงความจริงใจในการรับเงื่อนไขครั้งนี้ อย่างแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทยที่ตอบรับเรื่อง สสร.แต่ไม่ได้ย้ำเรื่องที่มาของ สสร.จากการเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่เสนอให้ใช้แนวทางของรัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งไม่ตรงกับเงื่อนไขของพรรคประชาชนบางส่วนก็มีความขัดแย้งกัน ซึ่งตนจะได้นำเสนอข้อมูลให้ที่ประชุมพรรคพิจารณา
“ผมได้ถามว่าทั้งหมดที่คุยกันมา 45 นาที คุณชัยเกษมเห็นตรงกันทุกประการหรือไม่ ก็รับปากว่าคุณชัยเกษมเห็นตรงกัน แต่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม” นายพริษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้เงื่อนไขของพรรคประชาชน 3 ข้อ คือ
1.นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
2.คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินไปกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
3.พรรคประชาชนยืนยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มตัวต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี
“ถ้าจะมีใครมาเป็นรัฐบาลต้องรับสภาพการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย การที่เรายังคงยืนยันเป็นฝ่ายค้านต่อไปจึงเป็นอาวุธที่จะควบคุมกลุ่มคนเหล่านี้รักษาสัญญา ถ้าเบี้ยวเมื่อไหร่ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ล้มได้ทันที” นายพริษฐ์ กล่าว
ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน คาดว่าในการประชุมวันนี้จะยังไม่มีการลงมติ เพราะหลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคได้หารือกันแล้วคงจะมีการคุยกันอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าจะมีการแถลงในวันพรุ่งนี้
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า การประชุมวันนี้อาจจะยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องขอรับฟังข้อมูลรอบด้าน ส่วนแนวทางนั้นได้เตรียมการไว้ทุกทางที่จะไม่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองหยุดชะงัก และต้องยึดประเทศชาติไว้ โดยจะนำข้อมูลทุกอย่างมาพิจารณา บางคนให้ย้อนดูอดีต มีสารพัดความเห็น หลากหลายมาก
สถานการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่มีปัญหาหลายอย่างทับซ้อนกันอยู่ โดยเรื่องของรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่
“วันนี้ยังไม่มีคำตอบสำเร็จรูปว่าไปซ้ายหรือไปขวา ข่าวที่ออกมาเป็นแค่คาดการณ์ แต่คณิตศาสตร์การเมืองมีเงื่อนเวลา ทุกอย่างเกิดขึ้นได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ยังไม่สามารถบอกไปก่อนได้ว่าจะมีข้อสรุปหรือไม่ โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณารอบด้าน และประเมินความเสี่ยง โดยจะรับฟังความเห็นรอบด้าน และต้องหาข้อสรุปให้ได้ก่อนที่จะมีการประชุมลงมติโหวตเลือก โดยยังไม่มีธงใด ๆ แต่จะกำกับให้อยู่ในแนวทางในการตัดสินใจ
“รอเย็นนี้น่าจะมีความคืบหน้า แต่จะพยายามหารือให้ได้ข้อสรุปเร็วที่สุด” นายณัฐพงษ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ย. 68)