
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า แม้ขณะนี้การเมืองในประเทศจะเข้าสู่ช่วงสุญญากาศ แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหางบประมาณสะดุด ไม่ว่าหลังจากนี้ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม โดยมั่นใจว่างบประมาณรายจ่ายปี 2569 จะยังเดินหน้าได้แน่นอน ซึ่งปัจจุบัน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ได้ผ่านการพิจารณาในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) ซึ่งกระบวนการในชั้นนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 วัน
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ นายพิชัย เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติมากนัก เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดปัญหาทางการเมืองในลักษณะนี้ค่อนข้างบ่อย จนต่างชาติมีความคุ้นชิน
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ อาจจะมีลักษณะพิเศษกว่าที่ผ่านมาบ้าง แต่ก็อยากให้มองว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทย หากทุกประเทศเกิดปัญหาลักษณะนี้ ก็เชื่อว่าจะต้องมีสะดุดเหมือนกันหมด” รองนายกฯ และรมว.คลัง ระบุ
ส่วนของกรณีคำตัดสินของศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งวินิจฉัยว่า มาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศใช้ทั่วโลกเมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 ส่วนใหญ่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเกินขอบเขตอำนาจของฝ่ายบริหารนั้น นายพิชัย ระบุว่า ไม่ว่าสุดท้ายเรื่องนี้ทางสหรัฐฯ จะตัดสินอย่างไร เช่น หากตัดสินว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะ ทุกประเทศก็ยังเดินหน้าเรื่อง Reciprocal Tariffs กันไปตามเดิม ทุกประเทศยังมีสถานะในเรื่องนี้เท่าเดิม ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน
แต่ในทางกลับกัน หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ชนะ แล้วสุดท้าย Reciprocal Tariffs จะต้องกลับไปที่อัตราเดิม ก็เชื่อว่าทุกประเทศก็คงจะต้องกลับไปเหมือนกันทั้งหมด เพราะการแข่งขันทางการค้าในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ทุกประเทศแข่งขันกับสหรัฐฯ แต่เป็นการแข่งขันกันระหว่างประเทศที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ มากกว่า
“ไม่ว่าผลของสหรัฐฯ จะออกมาเป็นอย่างไร ก็เชื่อว่าไทยจะไม่มีปัญหา เพราะปัญหาก็ยังเท่าเดิม แต่อยู่ที่ว่าเราแก้ปัญหาได้ถูกทางหรือไม่” นายพิชัย ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ย. 68)