STECH ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง Backlog แกร่งหนุนรายได้ปี 68 โต 5% ตามแผน

นายเจษฎ์กรณ์ มงคลศรีสวัสดิ กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและการขาย บมจ.สยามเทคนิคคอนกรีต [STECH] เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทเชื่อว่ายังสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จากปัจจุบันมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 700 ล้านบาท อีกทั้ง บริษัทมีความพร้อมร่วมประมูลงานโครงการใหม่จำนวนมากทั้งภาครัฐและงานภาคเอกชนที่มีความต้องการก่อสร้างโรงงานเพิ่มขึ้น แม้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันถือเป็นความท้าทายมาก แต่เชื่อว่าตลาดคอนกรีตอัดแรงในไทยยังมีความต้องการ เพราะต้องรองรับแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 5% เชื่อว่าจะทำได้ตามแผน ซึ่งยังมีโครงการของภาครัฐและเอกชนอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างรอการประมูล ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าประมูล และคาดหวังได้งานเพิ่มและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของ STECH อย่างมั่นคงในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 STECH ยังคงเดินหน้าในการบริหารจัดการต้นทุนโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการขยายตลาดเน้นการขยายฐานลูกค้าและรักษาฐานลูกค้าเก่า เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด โดยจะเพิ่มยอดขายส่วนงานเสาไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นงานด้านโครงสร้างพื้นฐานเสาเข็ม เป็นหลัก และสุดท้ายมุ่งเน้นด้าน ESG มากขึ้น โดย STECH มุ่งเน้นใช้ปูนคาร์บอนต่ำ และใช้ลวดเหล็ก ของ บริษัท สยามสตีลไวร์ จำกัด (SSW) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เป็นโรงงานผลิตลวดเหล็ก “ลวดรักษ์โลก” ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ต้องใช้น้ำกรดซึ่งเป็นกรดไฮโดรคลอริคเข้มข้นในการกัดลวดโลหะให้สะอาดเหมือนในอดีต จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ส่วนการเข้าลงทุนในวังคอนกรีต บริษัทสามารถทำได้ดีตามแผนโดยได้รับการตอบรับที่ดีจากพันธมิตรทางการค้าและลูกค้าในพื้นที่ ในการรองรับตลาดทางภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทฯ ยังไม่มีโรงงาน เพราะเล็งเห็นว่าเป็นการเพิ่มช่องทางสำหรับการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการบริษัท STECH มีมติการประชุมให้มีการเพิ่มทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท วังคอนกรีต จำกัด อีก 10,000 หุ้น หลังจากการเพิ่มทุนจะมีหุ้นสามัญทั้งหมด 30,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้น 100% วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกำไรสุทธิ 100.64 ล้านบาท เติบโตถึง 51.91% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 66.25 ล้านบาท เช่นเดียวกับรายได้จากการขายและบริการทำได้ 1,201.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนถึง 19.95% จากการส่งมอบงานในปริมาณที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนตามปริมาณคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในมือ ทั้งนี้บริษัทยังไม่มีงานโครงการก่อสร้าง ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาประมูลงาน เนื่องจากโครงการทยอยแล้วเสร็จไปในช่วงไตรมาส 2–3 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับเน้นการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สนับสนุนให้อัตรากำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกเพิ่มขึ้นเป็น 8.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.31% และมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 13.02% จากเดิม 9.31% อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.03 เท่า จากเดิม 1.26 เท่า โดยมีเป้าหมายทำให้ต่ำกว่า 1 เท่า โดย STECH ยังคงเดินหน้าเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 สะท้อนถึงศักยภาพของธุรกิจคอนกรีตอัดแรงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท (Core Business) ยังมีดีมานด์ต่อเนื่อง แม้ภาพรวมธุรกิจก่อสร้างในประเทศจะมีความท้าทาย แต่บริษัทมุ่งเน้นบริหารจัดการและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ย. 68)