หุ้น BYD ร่วงหนัก หลังกำไรลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี

หุ้นบีวายดี (BYD) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีน ปรับตัวลดลงในวันนี้ (1 ก.ย.) หลังบริษัทรายงานกำไรไตรมาสล่าสุดลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี เนื่องจากสงครามราคาที่ดุเดือดได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักแก่อุตสาหกรรมยานยนต์จีน

รายงานระบุว่า กำไรสุทธิของ BYD ในไตรมาส 2/2568 ร่วงลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สู่ระดับ 6.4 พันล้านหยวน (895 ล้านดอลลาร์) ซึ่งสวนทางกับที่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในไตรมาสแรก

หุ้นของ BYD ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงและตลาดเซินเจิ้น ร่วงลงราว 5% ในการซื้อขายภาคเช้า หลังจากที่หุ้น BYD ในตลาดฮ่องกงร่วงลงไปถึง 8% ในช่วงเปิดตลาด ทำสถิติลดลงรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. ปีนี้

นักวิเคราะห์จากซิตี้ (Citi) ระบุว่า กำไรสุทธิของ BYD ต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่ 7-9 พันล้านหยวน และต่ำกว่าที่ซิตี้ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านหยวน ซึ่งกำไรที่ออกมาผิดคาดนั้นเป็นเพราะกลยุทธ์หั่นราคาไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้มากพอ ประกอบกับ BYD มีรายจ่ายเป็นค่าตอบแทนพิเศษให้กับตัวแทนจำหน่ายรวมมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านหยวนในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ BYD ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปีนี้ไว้ที่ 5.5 ล้านคัน แต่ ณ สิ้นเดือนก.ค. ยอดขายทั่วโลกอยู่ที่เพียง 2.49 ล้านคน คิดเป็น 45% ของเป้าหมายดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ย. 68)