
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (2 ก.ย.) หลังจากสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าไปที่รายได้จากน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันอาทิตย์นี้
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 65.59 ดอลลาร์ /บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 69.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเครือข่ายบริษัทขนส่งและเรือที่นำโดยนักธุรกิจเชื้อสายอิรัก ซึ่งเครือข่ายบริษัทดังกล่าวได้ลักลอบค้าน้ำมันอิหร่านโดยสวมรอยว่าเป็นน้ำมันอิรัก โดยมาตรการดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงสร้างแรงกดดันต่ออิหร่านหลังจากการเจรจาด้านนิวเคลียร์หยุดชะงักลง
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า การที่สหรัฐฯ ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดต่อการส่งออกของอิหร่านเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะไม่ยกเลิกการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจที่เหลืออยู่ของสมาชิก 8 ประเทศ ซึ่งรวมถึงซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย
การาฟ ชาร์มา นักวิเคราะห์อิสระคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะรอข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากสิ้นสุดฤดูขับขี่ในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งต่อไป เนื่องจากคาดว่าจะมีอุปทานส่วนเกินในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
นอกจากนี้ นักลงทุนยังประเมินการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เมืองเทียนจินของจีน ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. – 1 ก.ย. โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน, ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย เข้าร่วมด้วย โดยทั้งปธน.สีและปธน.ปูตินต่างก็ผลักดันวิสัยทัศน์สำหรับระเบียบความมั่นคงและเศรษฐกิจโลกใหม่ ซึ่งอาจเป็นการท้าทายสหรัฐฯ โดยตรง
นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital กล่าวว่า การประชุม SCO อาจทำให้ปธน.ออกมาตอบโต้ และอาจกระตุ้นให้มีการคว่ำบาตรทุติยภูมิมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออินเดีย ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนราคาน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 68)